
เก่ง มาตราชและครอบครัว รอศาลนัดสมานฉันท์คดีบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติดงชมภูพานและดงกระเฌอ หน้าศาลจังหวัดสกลนคร ภาพจาก: จันทร์ โพธิ์จันทร์
ศาลจังหวัดสกลนครนัดสมานฉันท์ เก่ง มาตราช ผู้ต้องหาเป็นนายทุนผู้บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติดงชมภูพานและดงกระเฌอ ศาลแนะให้รับสารภาพ จะลดโทษกึ่งหนึ่ง เจ้าตัวและครอบครัวยืนยันสู้คดีต่อ อ้างไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกตั้งข้อหา
เมื่อวานนี้ (25 พ.ค. 2559) เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดสกลนครนัดสมานฉันท์ คดีนายเก่ง มาตราช จากหมู่บ้านจัดระเบียบ ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร ผู้มีอาชีพเสริมคือรับจ้างกรีดยางพาราที่ภาคใต้ นายเก่ง มาตราชถูกศาลจังหวัดสกลนครออกหมายจับคดีบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติดงชมภูพานและดงกระเฌอ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ในวันที่ 7 เม.ย. 2559 แล้วคุมขังเป็นเวลาห้าวัน ก่อนได้รับการอนุญาตให้ประกันตัวในวันที่ 12 เม.ย. 2559 ที่ผ่านมา
การขึ้นศาลในครั้งนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 19 เม.ย. 2559 ที่ผ่านมาอัยการส่งฟ้องคดีดังกล่าวแล้วศาลจึงได้นัดสมานฉันท์ในเช้าวานนี้ (25 พ.ค. 2559)
นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา ทนายความผู้ดูแลคดีเล่าถึงผลสรุปการสมานฉันท์ว่า “ศาลพยายามเกลี้ยกล่อมให้ นายเก่ง มาตราช ผู้ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติภูพานรับสารภาพ แล้วศาลจะลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จากนั้นรอลงอาญาต่อไป แต่นายเก่งพร้อมครอบครัวยืนยันจะต่อสู้คดีนี้ให้ถึงที่สุด เพราะไม่ได้กระทำผิดตามที่ศาลระบุว่าตนได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินหรือเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว”
หลังจากนั้น ศาลจังหวัดสกลนครได้นัดแถลงต่อศาลอีกครั้งในวันที่ 13 มิถุนายน 2559 โดยการสืบพยานครั้งหน้าจะมีทางฝ่ายอัยการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายรวมถึงโจทก์ ซึ่งคือนายเก่ง มาตราช ร่วมแถลงต่อศาลอีกครั้ง โดยการพูดคุยในศาลวันนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
หลังจากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติประกาศ นโยบายทวงคืนผืนป่าทั่วประเทศ ผ่านการบังคับใช้คำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 และคำสั่ง 66/2557 เกี่ยวกับการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่า ประชาชนผู้ถือครองพื้นที่ป่าไม้ เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดิน ต้องย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวตามวันเวลาระบุ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยเฉียบขาดเสมือนหนึ่งผู้บุกรุก บ้านจัดระเบียบ ต.หลุบเลา อ.ภูพาน จ.สกลนคร เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งผู้อาศัย 30 กว่ารายได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยอ้างว่าพวกเขาได้เข้ามาครอบครองและจับจองพื้นที่ป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดิน จนนำมาสู่การสนธิกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามารุกไล่ตัดต้นยางพาราของชาวบ้านเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา
การจับกุมคุมขังและดำเนินคดีกับนายเก่ง มาตราช เป็นกรณีล่าสุดที่บ้านจัดระเบียบ ซึ่งสำนวนคดีอยู่ที่ตำรวจตั้งแต่ปี 2555 แต่ไม่ได้ส่งอัยการ เนื่องจากชาวบ้านขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานต่างๆ จนกระทั่งหลังรัฐประหารปี 2557 จึงมีการส่งฟ้องระลอกแรกไปกว่าสามสิบคน