คณบดีรัฐศาสตร์ ม.อุบลฯ ประกาศยกเลิกงานเสวนาประชามติพรุ่งนี้ เหตุ ผู้ว่าฯ ยืนยันไม่มีความจำเป็น ด้านม.อุบลฯ ตั้งคำถามถึงความเป็นกลาง ชี้วิทยากรมีจุดยืนไม่รับร่าง รธน.
เมื่อเที่ยงวันนี้ (1 ส.ค. 59) ดร. ฐิติพล ภักดีวานิช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.อุบลฯ ได้แชร์ภาพโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานเสวนาสาธารณะ “การลงประชามติที่เสรีและเป็นธรรมและนัยต่อประชาธิปไตยไทย” บนเฟซบุ๊กของตนเองเพื่อแจ้งข่าวการยกเลิกงานเสวนาที่จะจัดขึ้นในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.59) ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยดร. ฐิติพลได้เขียนชี้แจงสาเหตุการถูกยกเลิกงานเสวนาส่วนหนึ่งเป็นภาษาอังกฤษว่า
“งานเสวนาได้ถูกยกเลิกเนื่องจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีและผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีร้องขอมา โดยทางมหาวิทยาลัยและทางจังหวัดมีความวิตกกังวลอย่างมากเกี่ยวกับงานเสวนาครั้งนี้และได้ตั้งคำถามถึงความเป็นกลางของงานนี้ด้วย”
ตามกำหนดการแล้ว กลุ่มวิทยากรที่จะเข้าร่วมงานเสวนาดังกล่าว ได้แก่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน, ดร. อภิชาต สถิตนิรามัย จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผศ. ตรีเนตร สาระพงษ์ จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ดร. ฐิติพล ภักดีวานิช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ดร. ฐิติพล กล่าวถึงเจตนารมณ์ของงานนี้ว่า ต้องการเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อให้มีการโต้แย้งในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมองว่าเป็นบทบาทของนักวิชาการและสถาบันทางวิชาการ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ที่จะสามารถแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ และไม่ควรถูกมองว่าเป็นการต่อต้านรัฐบาลหรือต่อต้าน คสช. อีกด้วย
นอกจากนี้ ดร. ฐิติพล ได้ให้ข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าวเดอะอีสานเรคคอร์ดเพิ่มว่า ตนและผู้จัดงานได้รับอนุญาตให้จัดงานจากทางทหาร มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ. 22 ) ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เรียบร้อยแล้ว โดยทางทหารกล่าวว่า พลตรี อชิร์ฉัตร โรจนะภิรมย์ ผบ. มทบ. 22 ได้อนุญาตให้จัดงานครั้งนี้ จากนั้นทางทหารจึงได้ส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมของการจัดงานอีกครั้ง แต่ทางผู้ว่าฯ ให้เหตุผลกลับมาว่า ทางจังหวัดอุบลฯ ได้มีการจัดเวทีลักษณะนี้ไปแล้ว ดังนั้นการจัดเวทีครั้งนี้ ที่ ม.อุบลฯ จึงถือว่าไม่มีความจำเป็น
แต่ด้าน ดร. ฐิติพล เห็นว่าการจัดเวทีของทางจังหวัดยังไม่เพียงพอ โดยกล่าวว่า “ควรจะมีโอกาสให้มีงานอื่นได้จัดด้วยในฐานะที่เราเป็นมหาวิทยาลัย คือนั้นหน้าที่ที่เราต้องทำ”
เช้าวันนี้ ดร. ฐิติพล ได้พูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีเกี่ยวกับการขอสถานที่จัดงานเสวนาครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยให้เหตุผลว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นกลาง จึงไม่อนุญาตให้จัดได้ โดยอ้างเหตุผลว่าวิทยากรบางคนที่จะเข้าร่วมงานเสวนาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ในส่วนของประเด็นนี้ ดร. ฐิติพล มองว่า ควรมีการเปิดให้มีความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ คำว่า “ไม่เห็นด้วย” ไม่ควรถูกตีความว่า “ไม่เป็นกลาง” ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคณะรัฐศาสตร์ที่จะต้องเปิดพื้นที่ให้มีการถกเถียงแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างเสรีและเป็นธรรม เพราะมีอีกหลายคนยังไม่ทราบถึงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ
“จริงมันคือหน้าที่ของเราด้วยซ้ำ ในฐานะที่เป็นคณะรัฐศาสตร์ ที่จะต้องเปิดเวทีให้มีการพูดคุย ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะในตอนนี้หลายคนยังตั้งคำถามว่ามันมีอะไรอยู่บ้างในรัฐธรรมนูญ” ดร. ฐิติพล กล่าว
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
