วันนี้ (23 สิงหาคม 2559) เวลา 16.49 น. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ‘ไผ่’ ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น โดยศาลมณฑลทหารบกที่ 23 อนุญาตให้ประกันตัว และนัดไต่สวนครั้งถัดไปวันที่ 27 ตุลาคม 2559 เวลาแปดนาฬิกา 8.00 น.
แม่ไผ่ รับลูกออกจากเรื่อนจำโดยการสวมเสื้อ สามัญชนให้และปะแป้งประเดิม
ท่ามกลางบรรยากาศชื่นบานของบิดามารดา มิตรสหาย และประชาชนหลายสิบคนผู้มาเฝ้ารอ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ได้รับเสื้อแขนยาวสีดำเขียนคำว่า “สามัญชน” มาสวม และได้รับการปะแป้งจากมารดาและบิดา ก่อนที่จะเข้าไปโอบกอดทักทายมิตรสหายและประชาชนหลายคน ซึ่งนายจตุภัทร์ได้กล่าวกับประชาชนที่รายล้อมอยู่ช่วงหนึ่งว่า “คสช. ออกไป”
ทั้งนี้ ศาลฯ ให้ประกันตัวนายจตุภัทร์ โดยมีเงื่อนไขคือ ห้ามยุยงปลุกปั่นทางการเมือง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ฯลฯ ตามคำสั่งของ คสช.
ไผ่ ระหว่างถูกนำตัวขึ้นศาล มทบ.23 จ.ขอนแก่น เพื่อไต่สวนกรณีารชุมนุมเกินห้าคนขึ้นไป โดยอ้างถึงการที่นายจตุภัทร์และเพื่อนกลุ่มดาวดินอีก 6 คน ได้ชุมนุมประท้วงการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมืองขอนแก่น
ด้านนายอานนท์ นำภา ทนายความของนายจตุภัทร์ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ศาลฯ ได้พิจารณาคำร้องของทนายที่ได้ยื่นไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และปรากฏว่า วันนี้ ศาลฯ ปฏิเสธคำร้องทั้ง 3 ประเด็น อันได้แก่ คำร้องขอให้ยกฟ้องเพราะอัยการส่งฟ้องนอกเวลาราชการ คำร้องขอให้ประกันตัวนายจตุภัทร์เนื่องจากมีอาการป่วย และคำร้องให้ประกันตัวเพราะเป็นคดีโทษอัตราต่ำ
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางทนายได้ยื่นคำร้องอีกครั้ง โดยอ้างเหตุว่านายจตุภัทร์มีภารกิจในการศึกษา และนัดไต่สวนครั้งถัดไปก็เป็นเวลานานกว่าสองเดือน ทางศาลฯ จึงได้อนุมัติให้ประกันตัวได้ โดยทนายความยื่นหลักทรัพย์เป็นเงิน 10,000 บาท เพื่อประกันตัว
สืบเนื่องจากวันนี้เวลา 12.30 น. นายจตุภัทร์ได้รับการเบิกตัวจากเรือนจำเพื่อการไต่สวนคดีชุมนุมเกินห้าคนขึ้นไปที่ศาลทหาร มทบ. 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น
โดยนายจตุภัทร์เดินลงมาจากรถของเรือนจำในชุดนักโทษพร้อมกุญแจมือ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม รายล้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ สื่อมวลชน และประชาชนหลายกลุ่มทั้งกลุ่มพลเมืองโต้กลับ กลุ่มดาวดิน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจาก จ.เลย คณาจารย์ และอื่นๆ รวมประมาณ 50 คน ที่ไปรออยู่บริเวณศาลทหารตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นมา
นายจตุภัทร์ถูกอายัดตัวในค่ำวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมเกินห้าคนขึ้นไป โดยอ้างถึงการที่นายจตุภัทร์และเพื่อนกลุ่มดาวดินอีก 6 คน ได้ชุมนุมประท้วงการรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมืองขอนแก่น เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดยพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา
ก่อนหน้าคดีชุมนุมดังกล่าว นายจตุภัทร์ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำอำเภอภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ข้อหาละเมิด พ.ร.บ. ประชามติ ด้วยการแจกใบปลิวรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากนั้นนายจตุภัทร์ยืนยันที่จะไม่ขอประกันตัว และได้อดอาหารประท้วงตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม จนวันที่ 19 สิงหาคม 2559 เมื่อศาลอำเภอภูเขียวได้อนุญาตให้ปล่อยตัว แต่นายจตุภัทร์ก็ถูกอายัดตัวไปในข้อหาใหม่โดยยังไม่ทันได้ปล่อยจากเรือนจำ
ภาพชาวบ้าน”กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด”จังหวัดเลย ร้องเพลงให้กำลังใจไผ่จตุภุทร บริเวณหหน้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ขณะที่รอการปล่อยตัว
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
