ศาลขอนแก่นฟ้อง “ไผ่ ดาวดิน” ผิด 112 พ.ร.บ. คอมฯ กรณีแชร์รายงาน BBC ไทย, ด้านทนายความเตรียมยื่นประกัน หวังรวมหลักฐานสู้คดี – iLaw ร่วมสังเกตการณ์, สมัชชาคนจน กรณีปากมูล ชี้กระบวนการยุติธรรมตกต่ำ
ขอนแก่น – วันนี้ (10 ก.พ. 60) เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดขอนแก่นรับฟ้อง พร้อมไต่สวนคำให้การนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” หลังจากวานนี้ (9 ก.พ. 60) อัยการจังหวัดขอนแก่นสั่งฟ้องนายจตุภัทร์ ฐานความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมฯ มาตรา 14 กรณีแชร์รายงาน BBC ไทย ด้านจำเลยปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายจำเลยเตรียมยื่นประกันเพื่อรวบรวมหลักฐาน ศาลนัดตรวจพยานหนักฐาน 21 มี.ค. 60 นี้
ทั้งนี้ ศาลสั่งให้การไต่สวนคำให้การวันนี้เป็นการพิจารณาคดีลับ โดยอนุญาตให้เพียงบิดา มารดา และทนายความจำเลยเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบยังคงวางกำลังบริเวณหน้าศาลอย่างเนืองแน่น
“ตราชั่งศาล” จำลอง ถูกวางไว้บริเวณหน้าศาลขอนแก่น โดยระบุความหมายว่าระบบความยุติธรรมของประเทศไทยที่ไม่เที่ยงธรรม
ด้านเครือข่ายนักศึกษา 4 ภาคทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ อ่านบทกวีบริเวณหน้าศาลจังหวัดขอนแก่น พร้อมแถลงการณ์ให้กำลังใจนายจตุภัทร์ นอกจากนี้ ตัวแทนจากโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) และตัวแทนจากสมัชชาคนจน ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์การพิจารณาคดีด้วย แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปร่วมฟังการไต่สวน
นายอาร์ม (นามสมมุติ) ตัวแทนนักศึกษาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวถึงสาเหตุที่เดินทางมาให้กำลังใจนายจตุภัทร์ว่า ส่วนตัวคิดว่านายจตุภัทร์โดนกระทำเกินกว่าเหตุ ไม่ได้รับความยุติธรรม ยืนยันว่าตนไม่ได้มาต่อต้านหรือรบกวนกระบวนการพิจารณาของศาล
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ที่ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ กล่าวว่า ข้อสังเกตแรกที่ตนเห็นในวันนี้คือ เป็นคดีการเมืองที่มีคนมาให้กำลังใจและติดตามการพิจารณาคดีเยอะมากที่สุด เมื่อเทียบกับคดีทางการเมืองหลายคดีที่ตนสัมผัส ถึงแม้ศาลจะสั่งพิจารณาคดีลับก็ตาม
นายยิ่งชีพ กล่าวว่า ถือเป็นคดีความผิดตามมาตรา 112 คดีแรกในรัชกาลใหม่ และเป็นการแชร์บทความเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์องค์ใหม่ ซึ่งเข้าใจว่าจำเลยยอมรับว่า เขาใช้เฟซบุ๊กแชร์บทความนั้นจริง ดังนั้นในคดีนี้จำเลยคงจะต่อสู้ว่าเนื้อหาที่แชร์นั้นไม่เป็นความผิด ความน่าสนใจของคดีจึงเป็นการตีความมาตรา 112 ของศาลในรัชกาลใหม่ว่า จะตีความกฎหมายให้กว้างหรือแคบอย่างไร
นายยิ่งชีพ ยังกล่าวอีกว่า เนื่องด้วยเป็นคดีที่มีคนในสังคมติดตามสนใจจำนวนมากจึงอยากรู้ว่าศาลจะมีวิธีการรับมือกับการที่มีคนสนใจจำนวนมากอย่างไร
“อยากมาเห็นด้วยตาตัวเองว่า กระบวนการทางกฏหมายถูกต้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ เป็นไปตามที่ควรจะเป็นหรือไม่” ยิ่งชีพ กล่าว
เครือข่ายนักศึกษา 4 ภาคทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ อ่านบทกวีบริเวณหน้าศาลจังหวัดขอนแก่น พร้อมแถลงการณ์ให้กำลังใจนายจตุภัทร์
ด้านนายกฤษกร ศิลารักษ์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน กล่าวว่า ตนและพี่น้องสมัชชาคนจนได้ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้ช่องว่างทางเทคนิคของกฏหมายเพื่อคุมขังนายจตุภัทร์
นายกฤษกรกล่าวถึงสาเหตุที่เดินทางมาให้กำลังใจนายจตุภัทร์ในวันนี้เพื่อจะแสดงออกว่า พวกเราก็ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการยุติธรรมที่กระทำกับนายจตุภัทร์แบบนี้ ยืนยันว่าหลังจากนี้จะกลับไปประชุมกับกลุ่มพี่น้องเพื่อกำหนดท่าทีต่อไปว่า เราสมัชชาคนจนจะสามารถทำให้นายจตุภัทร์ได้รับอิสรภาพได้อย่างไร
“ผมไม่เคยเห็นกระบวนการยุติธรรมตกต่ำขนาดนี้” นายกฤษกรกล่าว
ทั้งนี้ นายจตุภัทร์ เป็นเคลื่อนไหวทางสังคมที่เคยรณรงค์คัดค้านเหมืองทองคำในจังหวัดเลยและได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารปี 57 ปัจจุบันเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เขาถูกคุมขังในเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 59 ด้วยข้อหาละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กรณีการแชร์บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จากเว็บไซต์ข่าวบีบีซีไทย ซึ่ง พ.ท. พิทักษ์พล ชูศรี รองหัวหน้ากองยุทธการ มณฑลทหารบกที่ 23 ขอนแก่น เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี
ถึงแม้ศาลจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 59 แต่หลังจากนั้นไม่นานนายจตุภัทรกลับถูกศาลสั่งให้เพิกถอนการประกันชั่วคราวในวันที่ 16 ธ.ค. 59 ซึ่งตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 59 เป็นต้นมา ครอบครัวและทนายความพยายามยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวนายจตุภัทร์ถึง 5 ครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธการประกันตัวมาโดยตลอด ทำให้นายจตุภัทรถูกควบคุมตัวในคุกมานานกว่า 50 กว่าวันแล้ว
