โดยศรายุทธ ฤทธิพิณ

ชัยภูมิ – ศาลจังหวัดชัยภูเขียวเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาคดีนายเด่น คำแหล้ ถูกกล่าวหาว่าทำผิดพ.ร.บ.ป่าไม้ และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ เนื่องจากรอผลการพิสูจน์หลักฐานล่าสุดที่พบรวมถึงหัวกระโหลกมนุษย์ว่า เป็นของนายเด่นหรือไม่

สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน รอฟังคำพิพากษาคดีนายเด่น คำแหล้ ที่ศาลจังหวัดภูเขียว

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา นางสุภาพ คำแหล้ ภรรยานายเด่น คำแหล้ หรือ สหายดาวอีปุ่ม นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิที่ดินทำกิน ชาวชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่หายตัวไปบริเวณสวนป่าโคกยาว ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนปีที่แล้ว เดินทางไปยังศาลจังหวัดภูเขียว อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ตามที่ศาลจังหวัดภูเขียวมีหมายนัดถึงนายเด่น จำเลยที่ 1 และนางสุภาพ จำเลยที่ 4 เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา และฟังคำสั่งของศาลฎีกา กรณีที่นายเด่นมิได้มาศาลตามกำหนดนัดคดีข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ตามความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ โดนมีสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) กว่า 150 คน มาให้กำลังใจ

นายถนอมศักดิ์ ระวาดชัย ทนายความ นายเด่น คำแหล้ (คนซ้าย) และนายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา ทนายความ ระหว่างรอศาลภูเขียวอ่านคำพิพากษาคดีนายเด่น

นายถนอมศักดิ์ ระวาดชัย ทนายความศูนย์ศึกษาและพัฒนานักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน แจ้งว่า ศาลได้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา เป็นวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ด้วยเหตุผลว่าวัตถุพยานที่พบล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ยังรอผลการพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะหัวกระโหลกที่พบว่าเป็นของจำเลยที่ 1 ที่สูญหายไปหรือไม่ ศาลแจ้งว่าจะทำหนังสือติดตามไปยังเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจห้วยยางให้เร่งติดตามผลการพิสูจน์วัตถุพยานจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้แล้วเสร็จก่อนวันนัด

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลจังหวัดภูเขียวนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา และฟังคำสั่งของศาลฎีกา กรณีที่นายเด่นมิได้มาศาลตามกำหนดนัด เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งว่า ไม่มีบุคคลรู้แน่ว่าจำเลยที่ 1 ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตาย และให้ศาลจังหวัดภูเขียวดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งดังกล่าว ศาลจังหวัดภูเขียวจึงได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 พร้อมทั้งมีคำสั่งให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปเป็นวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนจะมีคำสั่งเลื่อนนัดออกไปดังกล่าว

นางสุภาพ บอกว่า เคารพคำสั่งของศาลแต่ที่ผ่านมายืนยันว่าสามีไม่เคยคิดหลบหนีคดี เพราะเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาก็เคยถูกคุมขังในเรือนจำภูเขียวมาด้วยกันเป็นเวลา 16 วัน

นางสุภาพ คำแหล้ ภรรยา นายเด่น คำแหล้ นักต่อสู้เรื่องสิทธิในที่ดินทำกินที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. 2559 มาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดภูเขียว

“สามีเป็นนักต่อสู้สิทธิที่ดินทำกิน กล้าเผชิญหน้าตลอด ถ้าจะหนีก็คงหนีไปกันหมดทั้งชุมชนโคกยาว และอยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 2525 ไม่เคยทิ้งปล่อยให้ภรรยาลำบากอยู่คนเดียวแบบนี้” ภรรยานายเด่นกล่าว

นางสุภาพ ระบุอีกว่า ตนเชื่อว่าสามีที่หายไปกว่า 1 ปีได้เสียชีวิตแล้วจากหลักฐานหลายอย่างที่ค้นพบ ส่วนวัตถุพยานที่พบล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ในรายการที่ 1-13 ที่เป็นสัมภาระตนยืนยันได้ว่าเป็นของสามี ส่วนในรายการที่ 14 เป็นหัวกะโหลกมนุษย์ ยังรอผลการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็นของสามีที่สูญหายไปหรือไม่

ทั้งนี้ก่อนศาลจังหวัดภูเขียวนัดอ่านคำพิพากษาศาลกีฎานัดแรกเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ปี 2559 นางสุภาพ ได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน ปี 2559 สามีเข้าไปเก็บหน่อไม้ในป่าตามปกติ และได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง ทนายความจึงขออนุญาตเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป โดยศาลอนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 20 ก.ย. 2559

เมื่อถึงกำหนดวันนัดในวันที่ 20 กันยายน ปี 2559 นางสุภาพอยู่ระหว่างการเข้ารักษาตัวจากอาการป่วยที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น ทนายความจึงได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไปนัดหนึ่ง ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ปี 2559 ต่อมาศาลเลื่อนนัดไปเป็นวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนจะมีคำสั่งนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา

 

image_pdfimage_print