ขอนแก่น – ศาลทหาร มทบ.23 รับฟ้องคดีพูดเพื่อเสรีภาพ ผู้ร่วมงาน 8 คนตกเป็นจำเลยฐานชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขัดคำสั่ง คสช. ทั้งหมดได้รับการประกันตัว ส่วนอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และภรรยา ยอมรับการปรับทัศนคติแทนการถูกดำเนินคดี ด้านนายรังสิมันต์ โรม ไม่ยอมรับกระบวนการพิจารณาคดี และไม่มาปรากฏตัวต่อศาล

จำเลยคดีพูดเพื่อเสรีภาพ ได้แก่ (จากซ้ายไปขวา) นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์ นายชาดไท น้อยอุ่นแสน นายฉัตรมงคล เจนเชี่ยวชาญ นายภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ น.ส.ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ น.ส.นีรนุช เนียมทรัพย์ และ น.ส.ณัฐพร อาจหาญ ส่วนจำเลยอีก 1 คนคือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ไม่อยู่ในภาพเนื่องจากถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น อัยการศาล มทบ.23 นัดฟังคำสั่งคดีพูดเพื่อเสรีภาพ ซึ่งเป็นคดีที่เกิดจากการจัดเสวนา “พูดเพื่อเสรีภาพ รัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2559 เพื่อรณรงค์การจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559 แต่ผู้จัดงานและผู้ที่มาสังเกตการณ์กลับถูกตั้งข้อหาว่า ขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 เรื่องห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป มีผู้ต้องหารวม 11 คน ผู้ต้องหา 8 คนถูกฟ้องเป็นจำเลย ผู้ต้องหา 2 คนยอมรับการปรับทัศนคติจากเจ้าหน้าที่ทหาร ส่วนนายรังสิมันต์ โรม นักกิจกรรมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ปฏิเสธกระบวนการตามกฎหมายตั้งแต่ต้น เนื่องจากเห็นว่าคดีขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ไม่มีความชอบธรรม โดยนายรังสิมันต์ไม่มาปรากฎตัวต่อศาล
ความผิดตามข้อกล่าวหานี้มีโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ หรือจะเลือกการถูกปรับทัศนคติจากเจ้าหน้าที่ทหารแทนการถูกดำเนินคดีก็ได้
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ในช่วงเช้าอัยการศาลทหาร มทบ.23 ได้ส่งฟ้องคดีพูดเพื่อเสรีภาพ ช่วงบ่ายศาลทหารขอนแก่นได้รับฟ้อง โดยรับฟ้องจำเลย 8 คน ประกอบด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” สมาชิกกลุ่มดาวดิน ผู้ต้องขังข้อหาหมิ่นเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 (นายจตุภัทร์ไม่ถูกเบิกตัวจากเรือนจำมาขึ้นศาล) นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์ และนายชาดไท น้อยอุ่นแสน นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายฉัตรมงคล เจนเชี่ยวชาญ หรือนายอาคม ศรีบุตตะ และนายภานุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น กลุ่มดาวดิน น.ส.ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ และ น.ส.นีรนุช เนียมทรัพย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ น.ส.ณัฐพร อาจหาญ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
น.ส.ศศินันท์กล่าวอีกว่า ศาลให้จำเลยวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน คนละ 10,000 บาท และอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยโดยไม่ได้มีเงื่อนไข ศาลนัดสอบคำให้การวันที่ 21 ธ.ค. 2560 ซึ่งจำเลยจะให้การว่าจะสู้คดีหรือรับสารภาพ หากจำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาและจะสู้คดี ศาลก็จะนัดตรวจพยานหลักฐาน หลังจากนั้นจะเข้าสู่การสืบพยานโจทก์และสืบพยานจำเลยต่อไป
ทนายความจำเลยกล่าวอีกว่า นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนางพรรณวดี ตันติศิรินทร์ อดีตอาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภรรยา ที่ตกเป็นผู้ต้องหาด้วย ไม่ถูกสั่งฟ้อง เนื่องจากบุคคลทั้งสองยินยอมที่จะเข้ารับการอบรมจากเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน (ปรับทัศนคติ) ตามข้อ 12 ของคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558
ทั้งนี้ ในข้อ 12 ของคำสั่งดังกล่าวระบุว่า หากผู้ที่กระทำผิดโดยการชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป สมัครใจเข้ารับการอบรมจากเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 วันและเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยเห็นสมควรปล่อยตัว ให้ถือว่าคดีเลิกกัน
การนัดฟังคำสั่งอัยการศาลทหารครั้งนี้ มีเพียงจำเลย 7 คนที่เดินทางมาศาล ส่วน นพ.เชิดชัยกับนางพรรณวดีไม่ได้ฟังคำสั่งที่ศาลด้วย นางพรรณวดีให้สัมภาษณ์กับเดอะอีสานเรคคอร์ดทางโทรศัพท์ถึงการยอมรับการปรับทัศนคติว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเซ็นเอกสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อยินยอมรับการอบรม โดยเหตุที่ตนยอมรับการอบรมเนื่องจากต้องการให้เกิดความปรองดองขึ้นในสังคม แต่ไม่ได้ยอมรับว่าทำผิดตามข้อกล่าวหา ขณะนี้บรรยากาศสังคมอยู่ในช่วงเวลาที่ตกอยู่ในความโศกเศร้าตนจึงไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวาย อีกทั้งคดีนี้ยืดเยื้อมานานตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2559 ตนและนายเชิดชัยไม่มีเวลาว่างมากนัก ด้วยเหตุผลข้างต้นตนจึงตัดสินใจเข้ารับการอบรมที่จะเกิดขึ้น

น.ส.ณัฐพร อาจหาญ (คนซ้าย) และ น.ส.ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ (คนขวา) อยู่ในรถของเรือนจำที่จะพาตัวไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น
เมื่อเวลา 14.45 น. ผู้คุมได้ใส่กุญแจมือและควบคุมตัวจำเลยทั้ง 7 คน แล้วนำตัวจำเลยขึ้นรถไปยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นเพื่อรอการปล่อยตัว จนกระทั่งเวลา 17.45 น. จำเลยผู้หญิงได้รับการปล่อยตัว ส่วนจำเลยผู้ชายได้รับการปล่อยตัวเวลา 18.30 น.
ทั้งนี้ หลังอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันที่ 17 ต.ค. 2560 ฝ่ายผู้ต้องหาคาดว่าอัยการจะสั่งฟ้องคดี จึงได้ระดมเงินทุนเพื่อใช้ประกันตัวผู้ต้องหา 5 คน (ที่มีเงินไม่เพียงพอ) ผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ดาวดิน สามัญชน” ซึ่งจำเลยจะคืนเงินให้ผู้สมทบทุนหลังจากสิ้นสุดคดี โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ได้ยอดเงินสมทบทุนจำนวน 44,950 บาท เมื่อรวมกับเงินส่วนอื่นจึงเพียงพอต่อการประกันตัว