โดยบูรพา เล็กล้วนงาม

ขอนแก่น – วันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. 2560 ที่ร้านแซบสเตชั่น (Zap Station) กรุงเทพมหานคร จะมีกิจกรรมระดมทุนพัฒนาศักยภาพอดีตนักโทษการเมือง 5 คน ใช้ชื่อว่า Fairly tell founding and the หมอลำม่วนคักคอนเสิร์ต ผู้จัดงานคือกลุ่มแฟร์ลี่เทล (Fairly Tell) เดอะอีสานเรคคอร์ดได้สอบถามถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งมีคนสามคนที่บอกว่าพวกเธอคือผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแฟร์ลี่เทลช่วยกันตอบคำถาม    

ใครจัดงาน จัดงานเพื่อวัตถุประสงค์อะไร คาดหวังจะได้ผลตอบรับยังไง

เรียกพวกเราว่าแฟร์ลี่เทล ที่แปลรวมๆ ว่า บอกกล่าวอย่างยุติธรรม กลุ่มเราเกิดจากการรวมตัวกันของผู้หญิง 3 คน

คนแรกคือ ภรณ์ทิพย์ มั่นคง (กอฟ) คนนี้เพิ่งออกมาจากคุก หลังจากติดคุกไปสองปี ออกมาก็ยังไฮเปอร์ไม่หาย อยากทำโน่นทำนี่

คนต่อมาคือ ฉัตรสุดา หาญบาง (แจ่ม) เป็นเพื่อนกอฟ วันที่กอฟออกมาจากคุก แจ่มไปรับ แล้วเจอเพื่อนของกอฟที่ไม่ใช่ผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ออกมาจากคุกแล้วไม่มีญาติไปรับ แจ่มจึงแบ่งของให้เขากิน และคิดว่าคงดีถ้าออกจากคุกมาแล้วมีคนมารับ พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นให้ อาทิ เสื้อผ้า และเงินติดกระเป๋า

คนสุดท้ายคือ กมลชนก มั่นคง (กิฟท์) น้องสาวกอฟ กิฟท์มีความสนใจอยากทำงานด้านเยียวยาจิตใจผู้คน พอเห็นกอฟทำงานอะไรก็อยากทำด้วย จึงมาทำงานด้วยกัน

ทั้งสามคนจึงก่อตั้งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมเรื่องนักโทษหญิงและนักโทษการเมือง เน้นการเยียวยาและการสร้างพลัง (Empowerment) กอฟเองมีบทเรียนว่าหลังออกมาจากคุกแล้วต้องเผชิญกับภาวะแบบไหน ขนาดโดยพื้นฐานกอฟเป็นคนเข้มแข็งมากๆ ยังเกิดภาวะความบอบช้ำทางจิตใจที่เป็นแผลลึก (Trauma) แต่ไม่มีใครหรือหน่วยงานใดคิดจะช่วยเหลือเยียวยาตรงจุด การทำงานของแฟร์ลี่เทลอีกด้านคือการสื่อสารกับคนทั่วไปถึงเรื่องสภาพภายในคุก สิทธิผู้หญิงในคุก และการละเมิดสิทธิของผู้ต้องขัง

วัตถุประสงค์ของการจัดคอนเสิร์ต กอฟอยากจัดงานให้ปฏิภาน ลือชา (แบงค์) นักร้องหมอลำและอดีตนักโทษการเมืองที่จะเป็นผู้ร้องนำในคอนเสิร์ตพร้อมกับวงดนตรีหมอลำ “ตุ้มเติ่นสะเวินใจ” เนื่องจากเห็นถึงศักยภาพในตัวแบงค์ แต่การที่แบงค์ต้องถูกจำคุกเป็นเวลากว่า 2 ปี ทำให้ผู้คนลืมเลือนเขา จึงต้องการส่งเสริมศักยภาพของเขา

“การส่งเสริมศักยภาพแค่ให้เงินมันยังไม่พอ แต่ต้องพัฒนาสิ่งใหม่และเรียกคืนสิ่งที่สูญเสียไป คุกกัดกินศักยภาพเดิมของคนแต่ละคนไปมาก”

แต่ก่อนที่จะพัฒนาศักยภาพของอดีตนักโทษก็ต้องรักษาบาดแผลในใจก่อน ต้องเข้าใจก่อนว่า สภาพในคุกบั่นทอนกำลังใจของนักโทษเป็นอย่างมาก คุกทำให้คนมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เมื่อพ้นโทษจึงเป็นเรื่องยากที่จะออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยู่ร่วมกับคนในสังคมที่ไม่ยอมรับคนที่เคยติดคุก

“พอเห็นเขาดูถูกหมอลำแล้ว เราก็เลยมาจัดดู” การพูดดูถูกหมอลำดังกล่าวมาจากคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างตรวจราชการที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีปัญหาน้ำท่วมว่า ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาและตนเองด้วย อย่าฟังเพียงหมอลำอย่างเดียว สิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มแฟร์ลี่เทลจัดคอนเสิร์ตหมอลำ

เมื่อตกลงว่าจะจัดคอนเสิร์ต แจ่มในฐานะผู้บริหารจัดการระบบของกลุ่ม จึงกำหนดให้งานนี้เป็นงานระดมทุนประจำปี เพราะการจัดคอนเสิร์ตในวันที่ 16 ธ.ค. 2560 เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับการเปิดตัวกลุ่มเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ปี 2559 งานนี้เลยเป็นงานใหญ่ เป็นงานระดมทุนด้วย และคอนเสิร์ตหมอลำด้วย

ผลที่คาดหวังว่าจะได้จากกิจกรรมนี้มี 2 ประการ คือ ได้รับงบประมาณมาทำงานด้านนักโทษการเมืองต่อในปีหน้า และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตได้รู้จักและให้ความสนใจอดีตนักโทษการเมืองคนอื่นด้วย นอกเหนือจากกอฟและแบงค์ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปอยู่แล้ว  

อยากให้ผู้ร่วมงานเห็นศักยภาพของอดีตนักโทษ งานนี้จึงไม่ใช่เวทีขอรับบริจาคเพราะแฟร์ลี่เทลไม่ต้องการความสงสาร แต่จะระดมทุนด้วยการขายบัตรผ่านประตู การจัดงานครั้งนี้คือการลงทุน ถ้าหากว่าไม่มีใครมาชมคอนเสิร์ตก็แปลว่าแฟร์ลี่เทลล้มเหลวจะต้องหาวิธีการระดมทุนใหม่ งานนี้จะแสดงให้เห็นว่าแม้พวกอดีตนักโทษจะต้องติดคุกและเผชิญเรื่องเลวร้ายแต่พวกเขาก็ยังฟื้นฟูศักยภาพของตัวเองขึ้นมาได้

ในงานมีกิจกรรมอะไรบ้าง อะไรคือจุดเด่นของงานนี้

งานนี้คือการแสดงหมอลำโดยแบงค์ นักร้องหมอลำที่เคยติดคุก หมอลำที่เขียนบทกลอนลำหลายสิบเล่มขณะที่อยู่ในคุก หมอลำที่คุกพรากจิตวิญญาณหมอลำไปจากเขาไม่ได้ งานนี้จะเป็นคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบที่สุดเท่าที่ศักยภาพของกลุ่มแฟร์ลี่เทลจะทำได้ มีดนตรีครบเครื่อง มีการร้อยเรียงเรื่องราวผ่านบทเพลง และมีเพลงที่บ่งบอกการต่อสู้ทางชนชั้นของผู้คนในแต่ละยุคสมัย

“มีหางเครื่องแจ่มๆ ด้วย อาหารบุฟเฟ่ต์และน้ำดื่มอยู่ในราคาบัตรเลย แต่น้ำอัดลม หรือแอลกอฮอล์นี่จัดการตัวเอง”

“แบงค์” ปฏิภาน ลือชา นักร้องหมอลำ กำหนดเปิดการแสดงในงาน Fairly tell founding and the หมอลำม่วนคักคอนเสิร์ต วันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. 2560 ที่ร้านแซบสเตชั่น กรุงเทพฯ

เมื่อจัดงานเสร็จจะนำเงินไปช่วยเหลือใครบ้าง เพราะอะไร ช่วยอธิบายกรณีของแต่ละคนโดยย่อ

เงินที่ได้จากการขายบัตรต้องหักต้นทุนก่อน ถ้าสมมติว่าขายบัตรหมด 100 ใบ หักทุนแล้วน่าจะเหลือเงินอยู่หมื่นกว่าบาท จึงยังไม่แน่ใจว่าเงินจำนวนนี้จะพอช่วยใครได้บ้าง แต่เท่าที่วางแผนไว้คือจะช่วยเหลืออดีตนักโทษการเมืองที่เข้าร่วมโครงการกับแฟร์ลี่เทลจำนวน 5 คน แต่ยังไม่เปิดเผยรายชื่อในเวลานี้ แต่ถ้าซื้อบัตรเข้ามาร่วมงานก็จะได้เจอกับอดีตนักโทษการเมืองดังกล่าว

“คุณก็จะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร คุณอยากจะถามอะไรเขาก็ถามได้ อยากรู้จักเขาก็ต้องมานะ”

อีกเหตุผลที่แฟร์ลี่เทลยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำเงินไปช่วยเหลือใครบ้าง เนื่องจากกังวลว่าจะขายบัตรไม่หมด เลยไม่กล้าให้ความหวังกับอดีตนักโทษ แต่เวลานี้นักโทษในกลุ่มแฟร์ลี่เทลก็มีศักยภาพในการดูแลตัวเองได้ตามสมควร

ผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองแตกต่างจากผู้ถูกดำเนินคดีทั่วไปยังไง ทำไมสมควรได้รับความช่วยเหลือ

แตกต่างกันโดยที่มาของคดี นักโทษการเมืองคือคนที่คิดแตกต่างและมีเหตุจูงใจทางการเมือง หรือนักโทษการเมืองบางคนแทบไม่รู้เรื่องอะไร แต่แค่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองด้วย

เหตุผลที่อดีตนักโทษการเมืองสมควรได้รับความช่วยเหลือนั้น ถ้าจะพูดในทางปฏิบัติแล้ว อดีตนักโทษแทบทุกคนต้องการความช่วยเหลือกันทั้งหมด คนที่เคยติดคุกต้องได้รับการฟื้นฟู และปรับตัว

“ไม่ใช่แค่ปล่อยๆ ไปให้ไปหาทางเอาเอง สุดท้ายเขาไม่มีที่ไปเขาก็กลับไปทำแบบเดิมไง”

กลุ่มแฟร์ลี่เทลเชื่อว่า การฟื้นฟูบำบัดอดีตนักโทษเป็นเรื่องที่รัฐต้องดำเนินการ และควรดำเนินการอย่างจริงจัง เพราะบาดแผลทางในที่นักโทษได้รับจากการติดคุกส่งผลกระทบต่อสถาบันครอบครัวและต่อคนอื่นในสังคม

“แต่รัฐมันไม่ทำไง เราก็ต้องมาทำเอง ดูแลกันเอง เหมือนโรงพยาบาล”

กรณีนักโทษการเมืองไม่ใช่แค่ถูกปล่อยออกมาจากคุกแล้วเรื่องจะจบ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐก็ยังติดตามไปพบอีกทำให้เกิดความเครียด อดีตนักโทษจึงต้องจัดการชีวิตตัวเองและชีวิตครอบครัว พร้อมกับตอบคำถามเจ้าหน้าที่รัฐ

“เสรีภาพที่ได้มามันไม่จริงหรอกนะ เราทำได้ดีที่สุดคือดูแลกันไป เท่านั้นเอง”

ทั้งหมดข้างต้นคือประเด็นหลักของการจัดคอนเสิร์ตระดมทุนให้อดีตนักโทษการเมืองในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังมีนายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรม มาร่วมสร้างความบันเทิงด้วย บัตรค่าผ่านประตูราคา 699 บาท สำรองที่นั่งที่ ไลน์ไอดี: 9october1987 โทรศัพท์ 061-657-1949 โอนเงินก่อนแล้วรับบัตรที่หน้างาน

ภรณ์ทิพย์ มั่นคง หรือ กอฟ ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มแฟร์ลี่เทล

หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มแฟร์ลี่เทลอย่าง “กอฟ” ก็เป็นอดีตนักโทษการเมือง คดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เดอะอีสานเรคคอร์ดจึงสงสัยว่ากอฟยังต้องเข้ารับการเยียวยาจิตใจอยู่ไหม แล้วเข้มแข็งกว่าคนอื่นหรือถึงมาช่วยคนอื่นได้ กอฟเล่าว่า

หลังออกจากคุกมีบาดแผลลึกทางจิตใจจึงไปเข้ารับการเยียวยากับนักบำบัดจิตใจชาวอินโดนีเซียที่มาทำงานบำบัดจิตใจผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ใช้การสื่อภาษาด้วยภาษาอังกฤษ บางทีก็มีคนแปลภาษาให้ ที่ไปรับการเยียวยาจากนักบำบัดเนื่องจากไม่ต้องการไปพบกับแพทย์ชาวไทยเพราะเห็นตัวอย่างว่าแพทย์ชาวไทยมักให้กินยากดประสาท แต่อาการที่กอฟเป็นไม่ใช่เรื่องของสมองจึงไม่ต้องการกินยา

“คนที่ออกจากคุกมักคิดมากและเห็นตัวเองไม่มีคุณค่า”

การบำบัดคือการพูดคุยเพื่อให้แยกแยะปัญหาออกจากความรู้สึก พยายามชวนเพื่อนนักโทษที่รู้จักกันในคุกและนักโทษการเมืองคนอื่นไปรับการบำบัดจากนักบำบัดชาวอินโดนีเซีย แต่พวกเขาไม่กล้าไปพบเนื่องจากติดขัดด้านภาษาอังกฤษ  

หลังจากบำบัดไปสักพักกอฟมีอาการดีขึ้นจึงหยุดรับการบำบัดเป็นประจำ แต่จะไปพบนักบำบัดเฉพาะเวลาที่มีปัญหา และเพื่อช่วยเหลือด้านจิตใจต่ออดีตนักโทษคนอื่น กอฟจึงนำหลักของการบำบัดมาปฏิบัติกับนักโทษคนอื่น การจัดกิจกรรม วาดรูป และเล่นละคร

“ปัญหาของนักโทษคือคิดมาก ต้องทำให้เขาเลิกคิดมาก ปัญหาคือบางคนต้องเข้ารับการบำบัดแต่ไม่ยอมบำบัด ซึ่งเราไปบังคับเขาไม่ได้”

นอกจากแฟร์ลี่เทลจะทำเรื่องการบำบัดแล้วยังทำเรื่องการส่งเสริมอาชีพด้วย เพราะการบำบัดอย่างเดียวแบบคนชั้นกลางไม่ตอบโจทย์คนหาเช้ากินค่ำ กลุ่มต้องการทำให้อดีตนักโทษมีอาชีพเพื่อทำให้ตัวเองเป็นคนมีคุณค่า

กิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา แฟร์ลี่เทลทำคอร์สบำบัดวันเดียว 2 ครั้ง คอร์สสามบำบัด 3 วัน 1 ครั้ง คนเข้าร่วมคือคนที่รู้จักกันในคุก อดีตนักโทษคนอื่น และนักกิจกรรม ส่วนการส่งเสริมอาชีพคือการออกผลิตภัณฑ์เพื่อให้อดีตนักโทษนำไปจำหน่าย การส่งคนไปเรียนโยคะเพื่อจะได้มีอาชีพสอนโยคะ และการส่งลูกของอดีตนักโทษไปเรียนภาษาอังกฤษ ส่วนแผนการปีหน้ามีแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยเวลานี้

Fairly tell founding and the หมอลำม่วนคักคอนเสิร์ต จัดที่ร้านแซบสเตชั่น ซอยเสือใหญ่ แยก 9-3 กรุงเทพฯ วันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. 2560 เวลา 18.00 น. บัตรราคา 699 บาท สำรองที่นั่งที่ ไลน์ไอดี: 9october1987 โทรศัพท์ 061-657-1949

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2560 กลุ่มแฟร์ลี่เทลแจ้งเปลี่ยนสถานที่จัดงานใหม่ เป็นที่ร้านเดอะบางเลนกุ้งเผา ถ.จันทร์ทองเอี่ยม อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยจะจัดงานในวันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. 2560 เวลา 18.00 น. เช่นเดิม เหตุผลในการย้ายสถานที่เนื่องจากกลุ่มแฟร์ลี่เทลไม่ต้องการให้เจ้าของร้านแซบสเตชั่นเดือดร้อน หลังมีคนอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาตักเตือนเรื่องการจัดงาน โดยบัตรเข้างานยังมีจำหน่าย

ร้านเดอะบางเลนกุ้งเผา บางบัวทอง สถานที่จัดงานแห่งใหม่

 

image_pdfimage_print