โดย ศตานนท์ ชื่นตา

สกลนคร – ชาวบ้านหินกองและชาวบ้านหินเหิบยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครให้หยุดโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินกองที่เอื้อประโยชน์นายทุนมากกว่าชุมชน โดยหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบรับปากจะระงับโครงการเอาไว้ก่อนและลงพื้นที่ตรวจสอบในเดือนกันยายนนี้

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 เวลา 09.30 นาฬิกา ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร ชาวบ้านหินกอง และชาวบ้านหินเหิบ ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ร่วมกันยื่นหนังสือเพื่อทวงถาม เรียกร้อง และร้องเรียน ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กรณีการบริหารการจัดการอ่างเก็บน้ำห้วยหินกอง อ.วานรนิวาส บนความเลื่อมล้ำและความขัดแย้ง

ตัวแทนชาวบ้านหินกองและชาวบ้านหินเหิบ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร (เสื้อยืดคอกลม) ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีการบริหารการจัดการอ่างเก็บน้ำห้วยหินกอง อ.วานรนิวาส ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ผ่านนายสุริยะ ยืนยง (เสื้อลายสีฟ้า) ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสกลนคร นายเอกวิชญ์ เที่ยงภักดิ์ (เสื้อสีกรมท่า) หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานสกลนคร และนายบรรจง ตรีกุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนคร (เสื้อสีเหลือง) ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2561

หนังสือร้องเรียนระบุว่า เมื่อ 33 ปีที่แล้ว ชาวบ้านหินกอง หมู่ 17 บ้านหินเหิบ หมู่ 6 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เป็นผู้เสียสละที่ดินโดยไม่มีค่าตอบแทน เพื่อให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหินกอง

“พวกเราแทบไม่มีสิทธิไม่มีอำนาจในการร่วมจัดสรรบริหารการจัดการน้ำเลย แต่เราก็พอใจที่หมู่บ้านของพวกเรามีน้ำ”

หนังสือร้องเรียนระบุอีกว่า ความขัดแย้งจากการบริหารการจัดการน้ำที่ชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมเพิ่มความรุนแรงขึ้น ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามเรียกร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ แต่ไม่ได้รับความสนใจแก้ไขจึงได้มีข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนี้

เรียกร้องให้หยุดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของหน่วยงานต่างๆ ที่พยายามนำเข้ามาในบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยหินกอง โดยเฉพาะ “การขุดลอกอ่าง” ด้วยเกรงว่าโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำจะเอื้อประโยชน์ให้กับ “นายทุน และเหมืองโปแตช”  

เรียกร้องขอจัดตั้งกลุ่มและขอบริหารการจัดการน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยหินกองเอง ที่ผ่านมาเคยไปยื่นเรื่องที่กรมชลประทานสกลนครไว้แล้วทุกวันนี้ยังเงียบ

และเรียกร้องพร้อมร้องเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยตรวจสอบถึงความไม่ชอบมาพากล ความไม่โปรงใสที่อาจนำไปสู่ความทุจริตมิชอบจนเกิดความเสียหายต่อภาครัฐใน “โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ที่สูบด้วยพลังงานไฟฟ้าแรงสูง” ที่เอื้อให้กับนายทุนเอกชนรายหนึ่งที่เป็นข้าราชการในท้องถิ่นมากกว่าชุมชน ทั้งยังให้คนในชุมชนรับผิดชอบค่าไฟฟ้า ที่ปัจจุบันนี้รวมกันมากกว่าหมื่นบาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครติดภารกิจจึงได้มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรม สถานีพัฒนาที่ดินสกลนคร และโครงการชลประทานจังหวัดสกลนคร ร่วมกันรับเรื่องราวร้องเรียน ทั้งสองฝ่ายร่วมพูดคุยกันนานกว่า 3 ชั่วโมง โดยมีข้อสรุปร่วมกันเบื้องต้น ดังนี้

นายเอกวิชญ์ เที่ยงภักดิ์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 2 โครงการชลประทานสกลนคร กล่าวว่า มีการเสนอโครงการจากผู้ใช้น้ำในเขต ต.คอนสวรรค์ เข้ามาเพื่อให้ไปช่วยขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยหินกอง แต่หลังจากได้รับฟังข้อมูลจากชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำฯ ตนรับปากว่าจะระงับโครงการโครงการไว้ก่อน หากมีการนำรถขุดตักเพื่อเข้าไปขุดลอกอ่างฯ ชาวบ้านก็มีสิทธิขัดขวางได้

ส่วนเรื่องการขอเป็นผู้บริหารการจัดการอ่างเก็บน้ำของชาวบ้าน นายเอกวิชญ์กล่าวว่า ตนจะขอนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับผู้ใหญ่ และจะขอเข้ามาพูดคุยร่วมกันกับคนในพื้นที่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย คาดว่าจะเดินทางเข้าไปพบกับชาวบ้านได้ก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้

นายสุริยะ ยืนยง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสกลนคร กล่าวว่า โครงการท่อส่งน้ำมีประโยชน์กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก แต่เมื่อมีการนำโครงการไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าเอื้อประโยชน์ให้นายทุนมากกว่าชาวบ้าน กรมพัฒนาที่ดินในฐานะเจ้าของโครงการจะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ พร้อมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสกลนครและโครงการชลประทานสกลนคร

“ตอนนี้โครงการยังไม่มีการเปิดใช้ ผมก็เพิ่งรับทราบข้อมูลจากชาวบ้านในวันนี้ การที่ชาวบ้านเข้ามาเรียกร้องให้ระงับจึงถือว่าทุกส่วนระงับไปโดยปริยายอยู่แล้ว” นายสุริยะกล่าว

แม่ชีทองยุ่น อุปแดง ผู้ถวายฎีกาให้สร้างอ่างเก็บน้ำห้วยหินกอง เมื่อปี 2524 และบริจาคที่ดินจำนวน 56 ไร่ให้สร้างอ่าง

แม่ชีทองยุ่น อุปแดง วัย 89 ปี ซึ่งเดินทางมายื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2524 ตนร่วมกับชาวบ้านคนอื่นถวายฎีกาต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จที่บ้านกุดนาขาม ต.ธาตุ อ.วานรนิวาส  เพื่อขอพระราชทานแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและใช้ในการเกษตร โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2526 แล้วเสร็จในปี 2527 ชื่อโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินกองตามแนวพระราชดำริฯ เป็นเขื่อนดินสูง 9.20 ม. ยาว 870 ม. ความจุน้ำประมาณ 1.35 ลบ.ม. มีพื้นที่ประมาณ 420ไร่ โดยตนได้บริจาคที่ดินรวม 56 ไร่ ในการสร้างอ่างเก็บน้ำ

แม่ชียุ่นกล่าวอีกว่า ตอนแรกที่เห็นอ่างเก็บน้ำรู้สึกดีใจ แต่ทุกวันนี้รู้สึกเสียใจที่เห็นชาวบ้านด้วยกันต้องมาขัดแย้งกันเพราะอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียน ถ้าหน่วยงานราชการยังเงียบเฉย ตนพร้อมจะมาที่ศาลากลางจังหวัดสกลนครอีกครั้ง และจะนั่งปฏิบัติธรรมเพื่อรอคำตอบ

นายอนันต์ แสนบุญสิริ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหินกอง ให้เวลาจังหวัดสกลนครจัดการปัญหาภายในเวลา 7-15 วัน

นายอนันต์ แสนบุญสิริ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหินกอง กล่าวว่า หลังจากได้ฟังคำตอบจากทั้ง 3 หน่วยงานตนพอใจในระดับหนึ่ง แต่ตนรู้สึกไม่ดีที่หน่วยงานในท้องถิ่นไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา จนปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังมาถึง 2 ปี ทำให้พวกตนต้องเข้ามาทวงถามต่อผู้ว่าราชการจังหวัด

“เราให้เวลาทั้ง 3 หน่วยงาน 7-15 วัน ต้องมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา แล้วแจ้งเป็นบันทึกลายลักษณ์อักษรแล้วแจ้งให้เราทราบ” นายอนันต์กล่าวและว่า ถ้าจังหวัดไม่ดำเนินการให้ พวกตนจะมาทวงถามอีกรอบ หรืออาจจะไปร้องเรียนที่กรุงเทพฯ

ศตานนท์ ชื่นตา เป็นผู้เข้าอบรมโครงการอบรมนักข่าวภาคอีสานของเดอะอีสานเรคคอร์ด ประจำปี 2561

 

image_pdfimage_print