โดย ปัทมา ราตรี
อำนาจเจริญ – เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชพบว่าคนไทยหนึ่งในสามไม่ปลอดภัยเนื่องจากสัมผัสกับสารเคมีในผักผลไม้ ขณะที่ผลการสุ่มตรวจเกษตรกรโนนหนามแท่ง จังหวัดอำนาจเจริญ พบว่า กว่าร้อยละ 65 สัมผัสกับสารเคมี
คณะทำงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (ไทยแพน – Thai-PAN) ประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานของโครงการร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในปี 2561-2562 ที่สวนชีววิถี บางอ้อ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ประเด็นของการประชุมเนื่องจากเครือข่ายเตือนภัยฯ พบว่า มีสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ได้แก่ การพบสารตกค้างในผักผลไม้เกินค่า MRL (ค่ากำหนดปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด) ในแหล่งจำหน่ายสำคัญ อาทิ ห้างค้าปลีก ตลาดค้าส่ง และอาหารในโรงเรียน การพบตกค้างในสิ่งแวดล้อม การที่สารเคมีเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร และการพบสารเคมีตกค้างในประชาชนทุกกลุ่มในระดับเสี่ยงถึงไม่ปลอดภัย
นายแพทย์พิบูล อิสระพันธุ์ คณะทำงานเครือข่ายเตือนภัยฯ กล่าวว่า ข้อมูลสถานการณ์การคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชด้วยกระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรสของกระทรวงสาธารณะสุข ในปี 2561 จำนวน 269,700 ราย พบว่า ประชาชนอยู่กลุ่มไม่ปลอดภัย (ได้รับสารเคมีกำจัดศัตรู)และกลุ่มเสี่ยง รวม 108,083 ราย หรือ ประมาณร้อยละ 40
“คนไทยหนึ่งในสามหรือราวยี่สิบล้านคนในทุกอาชีพ ได้รับสารเคมีค่อนข้างมาก และมีภาวะที่ร่างกายขับสารพิษออกมาได้ไม่ดี การสะสมสารเคมีในร่างกายระยะยาวจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ” นพ.พิบูลกล่าว
นายพรณรงค์ ปั้นทอง คณะทำงานเครือข่ายเตือนภัยฯ จากจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ผลการตรวจคัดกรองความเสี่ยงฯจากเกษตรกรจำนวน 108 คน ที่ต.โนนหนามแท่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคำน้อย พบผลปกติ 37 คน มีความเสี่ยงน้อย 20 คน มีความเสี่ยงมาก 51 คน สรุปว่า ประชากรต.โนนหนามแท่งมีสารเคมีในเลือดระดับผิดปกติถึงร้อยละ 65 (ความเสี่ยงน้อยและความเสี่ยงมาก) โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคำน้อยจะตรวจคัดกรองกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นต่อไป
นางสาวปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ชี้แจงว่า การสุ่มตรวจสารพิษตกค้างในผักผลไม้ของ Thai-PAN เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเฝ้าระวัง ซึ่งทำได้เพียงปีละ 2 ครั้ง รวมจำนวนตัวอย่าง 300 ตัวอย่าง เนื่องจากงบประมาณมีอย่างจำกัด
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (ไบโอไทย) กล่าวว่า การสุ่มตรวจผักผลไม้เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเฝ้าระวังการปนเปื้อนของสารเคมี แผนการทำงานของเครือข่ายเตือนภัยฯ ในปีงบประมาณ 2562 (1 ตุลาคม 2561 – 30 กันยายน 2562) คือการสร้างการมีส่วนร่วมในการสุ่มตรวจกับเครือข่ายเตือนภัยฯ และหน่วยงานรัฐระดับท้องถิ่นในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสำนักงานสาธาณสุขจังหวัด ที่มีความพร้อม โดยหวังว่าในระยะยาวจะเกิดกลไกหลัก เกิดระบบร่วมของประเทศเพื่อทำหน้าที่สุ่มตรวจสารเคมีในผักผลไม้
ปัทมา ราตรี เป็นผู้เข้าอบรมโครงการอบรมนักข่าวภาคอีสานของเดอะอีสานเรคคอร์ดประจำปี 2561