แม้การรวมตัวปิดถนนทางเข้าโครงการขุดเจาะสำรวจแร่โพแทชเซียมหลุมที่ 4 ของกลุ่มอำเภอรักษ์วานรนิวาส จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 จะเป็นชัยชนะอันหอมหวาน
เพราะปฏิบัติการครั้งนั้นสามารถต้านการขนอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่เหมืองสำเร็จ ทำให้จนถึงตอนนี้บริษัทไชน่า หมิงต๋า โพแทช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัดไม่สามารถสำรวจแร่ต่อ
สำหรับชาวบ้าน ชัยชนะครั้งนั้น ถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 2 ที่สามารถขัดขวางการเจาะสำรวจแร่ของบริษัทเอกชนสำเร็จ
ชาวบ้านอ้างไม่รู้ข้อมูลก่อนเหมืองมา
ก่อนหน้านั้นกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส เคยเข้าขัดขวางการเจาะสำรวจแร่ของบริษัทสำเร็จมาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งก็คือการเจาะสำรวจหลุมที่ 3 แต่หลุมที่ 1 และที่ 2 ชาวบ้านไม่รู้ข้อมูล จึงไม่มีการเข้าขัดขวาง
“บริษัทเอกชนเจาะสำรวจแร่ในพื้นที่ไปแล้ว 2 หลุม โดยที่คนในชุมชนไม่รู้ข้อมูลการเจาะสำรวจเลย” มะลิ แสนบุญศิริ ชาวบ้านหินเหิบหินกอง ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร หนึ่งในสมาชิกกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส กล่าวด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“แร่เกลือ” ความกลัวของคนวานรฯ
เธอบอกอีกว่า หากบริษัทฯ รู้ตำแหน่งแร่คุณภาพแล้ว จะต้องขอใบอนุญาตทำเหมืองแร่ ซึ่งชาวบ้านไม่อยากให้มีเหมือง เพราะกังวลผลกระทบต่อด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชน
“เคยรู้มาว่า เหมืองแร่ใต้ดินเสี่ยงต่อดินทรุดตัว และแร่โพแทชเซียม คือแร่เกลือที่มีความเค็ม น้ำเค็มจากเหมืองแร่เสี่ยงต่อการไหลลงแหล่งน้ำ ปลาจะตายและน้ำเค็มจะซึมลงใต้ดิน จะทำให้ดินเค็มปลูกอะไรไม่ได้ เราไม่อยากให้หมู่บ้านเกษตรของเราเป็นหมู่บ้านอุตสาหกรรมเหมือง” มะลิกล่าวด้วยความหวัง
ปัญหาสุขภาพจากฝุ่นเกลือ
หากมีเหมืองแร่โพแทชเซียม ชาวบ้านยังกังวลว่า ในหมู่บ้านจะมีภูเขาเกลือขนาดใหญ่ขึ้น อาจเกิดจากการนำเศษเกลือจากกระบวนการคัดแยกและแต่งแร่โพแทชเซียมมาทิ้ง คนในพื้นที่จึงกังวลผลกระทบจากฝุ่นละอองเกลือที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ
สมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาระบบประเมินผลกระทบด้วยชุมชน ซึ่งเคยวิจัยเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่โพแทชเซียม กล่าวว่า หากคนในชุมชนสูดดมฝุ่นละอองเกลือเข้าไปในร่างกายจำนวนมาก อาจทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ
“หากทำเหมืองแร่ ฝุ่นละอองที่อาจจะเกิดขึ้นในชุมชน คือ ฝุ่นละอองที่มีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ในการทำเหมืองแร่ เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซล” สมพรอธิบาย
“นาเกลือ” ฝันร้ายของคนสกลฯ
ห่างจากขอบเขตพื้นที่ที่บริษัทสัญชาติจีนได้รับสิทธิ์สำรวจแร่โพแทชเซียม อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ไปประมาณ 50 กิโลเมตร คือ อำเภอบ้านม่วง จังหวัดเดียวกัน ถือเป็นแหล่งทำนาเกลือแห่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การทำอุตสาหกรรมเกลือและการต้มเกลือปรากฎให้เห็นมานานว่าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยน้ำเสียลงในพื้นที่และการเกิดหลุมยุบจากการสูบน้ำเค็มมาทำนาเกลือ ทำให้สมาชิกกลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาสกังวลว่า หากมีเหมืองแร่โพแทชเซียม การแพร่กระจายของน้ำเกลือจะมีมากยิ่งขึ้น
“ภูเขาเกลือเป็นข้อกังวลหลักที่คนในชุมชนไม่รู้ว่า บริษัทจะมีวิธีการป้องกันฝุ่นและน้ำเค็มจากภูเขาเกลืออย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร” มะลิตั้งคำถาม
“นาเกลือ” โศกนาฎกรรมชุมชนอีสาน
สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์ อาจารย์สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เชื่อว่า กรณีนี้จะคล้ายกับพื้นที่ชุมชนบ้านหนองบ่อ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ที่ได้รับผลกระทบการกระจายตัวของน้ำเค็มจากการทำนาเกลือเชิงอุตสาหกรรมแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ส่งผลให้ระบบนิเวศ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ถูกทำลาย จนรัฐบาลต้องออกกฎหมายห้ามทำนาเกลือ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศธรรมชาติและชุมชน
ขณะที่ บำเพ็ญ ไชยรักษ์ นักวิจัยอิสระ ผู้ศึกษาเรื่องเกลือในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า เกลือในหมู่บ้านโนนสะแบง อำเภอบ้านม่วง เปรียบเสมือนทองคำที่เหล่านักล่าสมบัติต้องการ ทำให้หมู่บ้านนี้เป็นที่หมายตาของนายทุนและมีการเข้ามาซื้อที่ดินทำนาเกลือ คนที่เคยเป็นเจ้าของที่ดินต้องกลายเป็นคนงานรับจ้างทำนาเกลือ
“คนเหล่านั้นต้องกลายเป็นแรงงานรับจ้างรายวัน ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง กลายเป็นคนจน เกิดความไม่มั่นคงในชีวิต ในที่สุด นำมาสู่การล่มสลายของชุมชน” นักวิจัยอิสระกล่าว
อย่างไรก็ตาม อภิชาติ สายะสิญจน์ ผู้จัดการบริษัทไชน่า หมิงต๋า โพแทช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ชี้แจงว่า บริษัทมีแผนป้องกันฝุ่นละอองและการรั่วไหลของน้ำเกลือจากภูเขาเกลือลงสู่ดินและแหล่งน้ำธรรมชาติไว้แล้ว รวมทั้งมีมาตรการนำเกลือที่กองเป็นภูเขาเกลือกลับเข้าไปในอุโมงค์แร่เหมือนเดิม เพื่อเสริมความแข็งแรงของดินและป้องกันการแพร่กระจายของละอองเกลือและน้ำเค็มจากภูเขาเกลือ
เดินหน้าต้านเหมืองแร่โพแทช
บริษัทไชน่า หมิงต๋า โพแทช คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับสิทธิ์สำรวจแร่โพแทชเซียมในจังหวัดสกลนคร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 120,000 ไร่ ตั้งแต่ปี 2554 โดยคาดว่าชาวบ้านจาก 82 หมู่บ้านใน 6 ตำบล ของอ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จะได้รับผลกระทบ
นอกการจากขัดขวางการเจาะสำรวจในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ชาวบ้านทั้ง 6 ตำบลในเขตพื้นที่สำรวจแร่ยังได้รวมตัวกันเดินขบวนประท้วงโครงการขุดสำรวจแร่อีกหลายครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้ยื่นหนังสือต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทเอกชนเพื่อให้ยุติโครงการ และจัดเวทีเสวนาพูดคุยเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมือง รวมถึงจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านการทำเหมืองแร่ทั้งในพื้นที่และในสังคมออนไลน์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤษาคม พ.ศ. 2561 กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส จัดกิจกรรมเดินรณรงค์ (Wanon Walk) ระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร ผ่าน 4 อำเภอ เป็นเวลา 5 วัน โดยมีเป้าหมายคือตัวอำเภอเมืองสกลนคร เพื่อบอกเล่าความกัลวลเรื่องผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โพแทชให้ผู้คนระหว่างทางได้รับรู้ และเชิญชวนให้ออกมาร่วมต่อต้านการทำเหมืองแร่ในพื้นที่
แต่การคัดค้านของกลุ่มรักษ์วานรนิวาสกลับทำให้แกนนำ 9 คน ถูกฟ้องร้องคดีอาญาและคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายรวม 3.6 ล้านบาท ต่อมา ศาลจังหวัดสว่างแดนดิน (31 กรกฎาคม พ.ศ.2562) ได้อ่านคำพิพากษาในคดีแรก ซึ่งเป็นคดีแพ่งให้ชาวบ้านทั้ง 9 คน ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ เป็นจำนวนเงิน 1,544,964.17 บาท พร้อมทั้งให้จ่ายค่าทนายความแก่ฝ่ายโจทย์อีกจำนวน 10,000 บาท กรณีชาววานรนิวาสหลายสิบคนชุมนุมขัดขวางการขนอุปกรณ์ขุดเจาะสำรวจแร่โพแทชหลุมที่ 4 บริเวณบ้านน้อยหลักเมือง ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 จนทำให้บริษัทเสียโอกาสในการดำเนินโครงการฯ แต่ชาวบ้านขออุทธรณ์คดี
รอติดตามตอนที่ 2
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อได้ที่
“ย่าน”ความกลัวผลกระทบจากเหมืองแร่โพแทช สกลนคร
อิหยังที่มันอยู่ใต้ดินกะให้มันอยู่ใต้ดิน
หญิงแถวหน้ากับการต้านเหมืองโพแทชวานรฯ จ.สกลนคร
สู้คดีอย่างไรให้ชนะ – กลุ่มค้านเหมืองโพแทช สกลฯ ถอดบทเรียนการต่อสู้จากนาหนองบง