ชัยภูมิ – คณะทำงานยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย กัญจนา ศิลปอาชา ลงพื้นที่พบชาวบ้านบ่อแก้ว ต.ท่าพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ชุมชนที่ถูกบังคับคดีให้ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 27 สิงหาคม ตามคำตัดสินของศาลฏีกา กรณีบุกรุกทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
บรรยากาศการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างชุมชนกับเจ้าหน้าที่ อ.อ.ป. ภาพโดย อติเทพ จันทร์เทศ
ผลการพูดคุยสรุปว่า จะยืดเวลาการบังคับคดีออกไป 30 วัน โดยระหว่างนี้คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติจะมีการประชุมคณะทำงานในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 นี้
กัญจนา กล่าวว่า วันที่ 30 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะทำงานที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาป่าคอนสารและป่าไทรทอง จ.ชัยภูมิ ระหว่างนี้ขอให้ยืดเวลาบังคับชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปก่อน 30 วัน
“วันที่ 27 สิงหาคมที่จะเป็นวันบังคับดีห้ามขับไล่ชาวบ้านออก ถ้ากฎหมายมันบีบราษฎรก็ไม่ควรใช้กฏหมายนั้น” ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์ฯ กล่าว
กัญจนา ศิลปอาชา คณะทำงานยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาพโดย อติเทพ จันทร์เทศ
กัญจนา กล่าวอีกว่า วันที่ 30 ส.ค. นี้คณะทำงานฯ จะพิจารณาว่าจะสามารถกันพื้นที่กว่า 830 ไร่ ที่อยู่ 1,400 ไร่ที่เป็นพื้นที่ของ อ.อ.ป. เพื่อชาวบ้านทำกินได้หรือไม่
จากนั้นสมศักดิ์ วิเชียรชัยชาญ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาค 6 (อ.อ.ป.) ยืนยันว่า วันที่ 27 สิงหาคมนี้จะยังไม่บังคับคดีชาวบ้าน แต่จะเลื่อนออกไปตามที่คณะกรรมการยุทธศาตร์ฯ ร้องขอ
“ต้องบอกว่า เรายังไม่มีหนังสือมอบอำนาจจาก ผอ.อ.อ.ป. เพราะผมเป็นข้าราชการก็ต้องทำงานตามคำสั่งและเอกสาร” ปอ.อ.อ.ป. ภาค 6 กล่าว
ระหว่างนั้น กัญจนา จึงโทรศัพท์ประสานงานถึงวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสั่งการให้ ผอ.อ.อ.ป.ทำหนังสือมอบอำนาจด่วนที่สุดให้แก้ไขปัญหานี้
หลังการไกล่เกลี่ย กัญจนา ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ได้ขยายเวลาให้ชาวบ้านอยู่ต่ออีก 1 เดือน ระหวางนี้รัฐมนตรีได้ตั้งคณะทำงานดูแลแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับที่ดินและทรัพยากรทุกมิติ ซึ่งปัญหาไทรทองและคอนสาร ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
สมศักดิ์ วิเชียรชัยชาญ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาค 6 (อ.อ.ป.) (เสื่อดำ) ภาพโดย อติเทพ จันทร์เทศ
ขณะที่ พ.ต.อ.สุริยา จักรโนวรรณ ผู้กำกับสภ.คอนสาร กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานมา คือ พรุ่งนี้ อ.อ.ป.หลังจากได้รับหมายจากกรมบังคับคดีให้รื้อถอนที่ดินของชาวบ้าน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 200 นายเพื่อเข้าดำเนินการ แต่หลังจากวันนี้ตำรวจจะระงับไว้ก่อน
“ความจริงแล้วเจ้าหน้าที่ไม่อยากทำ แต่เมื่อมีคำสั่งลงมาก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่” ผกก.สภ.คอนสาร กล่าว
คนในชุมชนบ่อแก้วร่วมฟังการประชุมไกล่เกลี่ยระหว่าง กัญจนา ศิลปอาชา และกับเจ้าหน้าที่จากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ภาพโดย อติเทศ จันทร์เทศ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมป่าไม้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นิด ต่อทุน และพวกรวม 31 คน ข้อหาบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนามจำนวนกว่า 1,400 ไร่ ที่ อ.อ.ป. ได้รับสัมปทานให้ปลูกต้นยูคาลิปตัสในสวนป่าคอนสารเนื้อที่ 4,401 ไร่ตั้งแต่เมื่อปี 2521
กรณีที่ อ.อ.ป. ได้รับสัมปทานปลูกต้นยูคาลิปตัสในพื้นที่ป่าสงวนฯ ทับที่ดินทำกินชาวบ้านจำนวนกว่า 300 คน ทำให้ชาวบ้านบ่อแก้วออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมและสิทธิในที่ดินทำกิน ทั้งมีการยื่นหนังสือต่อหน่วยงานรัฐ รวมถึงสู้คดีต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562 ศาลจังหวัดภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีคำพิพากษาให้ชาวบ้าน 31 คนออกจากพื้นที่
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
