ขอนแก่น – พรรคอนาคตใหม่จัดเสวนาหัวข้อ “จิตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ ประเทศไทยเป็นแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยการจัดงานครั้งนี้ผู้จัดอ้างว่า ถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐทำให้เมื่อวานนี้ (7 กันยายน) มหาวิทยาลัยขอนแก่นแจ้งยกเลิกสถานที่จัดงาน โดยให้เหตุผลว่า เป็นกิจกรรมทางการเมืองและฝนตกหนักจึงทำให้หลังคาอาคารรั่วซึม ผู้จัดงานจึงประสานขอใช้หอประชุมที่บริหารงานโดยเอกชน

ปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดงานครั้งนี้ได้ขอสถานที่ไว้ที่อาคารวิทยาลัยการปกครอง มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่ได้รับแจ้งก่อนการจัดงานเพียงวันเดียวว่า ไม่อนุญาต ซึ่งการถูกยกเลิกสถานที่การจัดงานยังเกิดขึ้นระหว่างงานระดมทุนที่ จ.มหาสารคามเมื่อวันที่ 7 กันยายนด้วย โดยมีการกดดันจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้เอกชนร่วมมือกับพรรคอนาคตใหม่ สุดท้ายต้องจัดงานที่ตลาดกลางแจ้ง

“สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า สุดท้ายแล้วเสรีภาพในรัฐธรรมนูญมีอยู่จริงหรือไม่ ความจริงหมดยุคของ คสช.แล้วก็ควร คืนความสงบสุขแก่ประชาชน หวังว่า จะไม่เกิดขึ้นอีกและขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงพลังเพื่อสะท้อนว่า จะไม่ยอมให้ถูกจำกัดเสรีภาพ” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

บรรยากาศงานเสวนา “จิตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ ประเทศไทยเป็นแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโดยพรรคอนาคตใหม่ ภาพโดย อติเทพ จันทร์เทศ

ส่วนธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวในเวทีเสวนาว่า เวลาพูดเรื่องปัญหาปากท้องดูเหมือนเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่ความจริงปัญหาปากท้องถูกสะสมมานาน เช่น เรื่องหนี้สินเกษตรกร เรื่องน้ำท่วม เป็นต้น หลังน้ำท่วมจังหวัดยโสธรอาจต้องใช้เงินชดเชยน้ำท่วมถึง 600 ล้านบาท แต่ทำไมรัฐบาลไม่คิดจัดการลุ่มน้ำชีทั้งระบบเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอีก แทนที่จะนำเงินไปแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 9 จังหวัดภาคอีสานที่ใช้งบประมาณ 5,400 ล้านบาท เพราะปัญหาที่สำคัญของการจัดการน้ำชีจะต้องเกี่ยวข้องกับ 6 กระทรวง มีรัฐมนตรีเกี่ยวข้องถึง 14 คน มาจากต่างพรรคการเมืองที่มีความคิดต่างกัน

“นี่เป็นความจงใจของรัฐธรรมนูญที่ต้องการทำให้รัฐบาลอ่อนแอ เป็นรัฐบาลผสมที่คำนึงแต่ความอยู่รอดทางการเมืองอย่างเดียว ย่อมไม่มีความคิดแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว

ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ (ซ้าย) สมเกียรติ ตั้งกิจวานิช ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) (กลาง) รศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ขวา) ภาพโดย อติเทพ จันทร์เทศ

ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ประเทศไทยต้องแก้รัฐธรรมนูญให้ได้ ส่วนจะแก้ไขอย่างไรต้องช่วยกันคิด เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้แย่ทั้งโลก ส่วนประเทศไทยยอดส่งออกติดลบและการลงทุนในภาคเอกชนชะงัก ซึ่งรัฐบาลขาดดุลด้านงบประมาณต่อเนื่องมาเป็น 10 ปีแล้ว เพราะภาษีจัดเก็บได้เพียงไม่เกิน 18 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ประชาชาติ เป็นโรคร้ายแรงที่ฝังตัวประเทศไทยมานาน

“ช่วงที่เป็นรองนายกฯ ผมเคยเสนอให้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา) ปรับโครงสร้างภาษี ปรับภาษีทรัพย์สิน แต่เขาก็ไม่ทำ ถ้าเขาตั้งใจแก้ไขปัญหาจริงเขาก็ทำได้ ตอนนั้นผมเสนอว่า มันต้องแก้ตอนที่ไม่เป็นระบอบประชาธิปไตย พอเป็นประชาธิปไตยมันก็แก้ไม่ได้ สุดท้ายผมก็ออกมาและตอนนี้ปัญหาก็ยังไม่ได้แก้”  อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าว

นอกจากนี้ ม.ร.ว.ปรีดียาธร ยังกล่าวอีกว่า ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเคยเสนออีกว่า ให้ขายข้าวที่ค้างสต็อกออกให้หมด เพราะราคาจะลดลง แต่ไม่มีใครเชื่อและเขามาขายช่วงปี 2559 – 2560 ราคาข้าวก็ลดลงและไม่ได้ราคา

“ผมทำงานหนึ่งปีวางระบบให้หมด แต่เขาไม่ทำตาม ผมก็บังคับใครไม่ได้ บังคับทหารไม่ได้ เขาดื้อ ถ้าจะบอกว่า ความเสียหายเกิดจากการขายข้าวก็ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลก่อนหน้านั้น แต่เกิดจากรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยความเสียหายจากการขายข้าวมันไม่ได้เกิดจากรัฐบาลก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่เกิดจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ด้วยที่ทำให้ข้าวเสียหายถึง 17 ล้านตัน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้เข้าร่วมฟังเสวนา จิตนาการใหม่ ข้อตกลงใหม่ ประเทศไทยเป็นแบบไหนที่เราอยากอยู่ร่วมกัน” ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดโดยพรรคอนาคตใหม่ ภาพโดย อติเทพ จันทร์เทศ

ส่วน สมเกียรติ ตั้งกิจวานิช ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า ตอนนี้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง ไม่ใช่ถดถอยแต่เติบโตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเกือบทั้งหมด หากเทียบความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยในประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่ได้เหลื่อมล้ำผิดปกติ แต่เมื่อเทียบกับประเทศทางยุโรปก็ถือว่า มีความเหลื่อมล้ำพอสมควร

ประธาน TDRI ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำสูงในระดับที่เป็นปัญหาและควรแก้ไข ด้วยการวางเศรษฐกิจฐานรากที่ผูกติดกับเกษตรกรและพนักงานกินเงินเดือน ถ้าต้องแก้ไขเกษตรกร แรงงาน ต้องปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เช่น เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพด ยาง อ้อย ราคาไม่ค่อยดีก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนพืชเกษตรที่ได้ราคาดี

“การเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยและรัฐมนตรีเกี่ยวกับเศรษฐกิจมีการบริหารต่อเนื่องก็ทำให้การปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้ทำตามแผนและไม่ควรถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ดังนั้นการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องสร้างฉันทามติว่า จะร่วมกันอย่างไร” สมเกียรติ กล่าว

การจัดกิจกรรมสานเสวนาหาฉันทานุมัติของสังคมเกี่ยวกับเรื่องรัฐธรรมนูญของพรรคอนาคตใหม่จัดมาแล้ว 2 ครั้งที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดสงขลา ครั้งนี้เป็นครั้งที่  3

image_pdfimage_print