โดย ดานุชัช บุญอรัญ
มหาสารคาม – บริเวณลานศาลาแปดเหลี่ยม วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) กลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วยนิสิตและนักเรียนประมาณ 50 คน รวมตัวกันจัดกิจกรรม “ทวงคืนความยุติธรรม ทวงคืนประชาธิปไตย” พร้อมชูป้ายข้อความ และชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์
พงศธรณ์ ตันเจริญ กลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เป็นพลังของคนรุ่นใหม่ที่ตื่นตัวทางการเมืองและต้องการแสดงออกให้ผู้มีอำนาจรู้ว่า ประชาชนจะไม่เพิกเฉยต่อการใช้อำนาจในทางมิชอบและความอยุติธรรมที่เกิดในสังคม
“การชุมนุมครั้งนี้ต้องการบอกไปยัง คสช.ว่า คนรุ่นใหม่แบบเราไม่ได้กลัวที่จะเผชิญหน้าในโลกความเป็นจริง เราไม่ได้เก่งแต่ในโซเชียลมีเดีย” พงศธรณ์ กล่าว
ผู้ร่วมกิจกรรมล้อมวงเขียนความใจแสดงความเห็นต่อกระบวนการยุติธรรมในประเทศ
ขณะที่ อิศรา วงศ์ทหาร นักเรียนโรงเรียนสาธิต ม.มหาสารคาม บอกว่า แม้จะเป็นนักเรียนแต่เป็นคนหนึ่งที่ได้รับความอยุติธรรมจากการคงอยู่ของ คสช. เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำส่งผลกระทบโดยตรงต่อครอบครัว พ่อและแม่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียน รวมทั้งรายจ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้น
“แม้จะเป็นเพียงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แต่ก็เป็นช่องทางที่ทำให้คนมีส่วนร่วมทางการเมือง ถ้ามีครั้งต่อไปคาดว่า จะมีคนมาร่วมมากขึ้น กิจกรรมแบบนี้จะกลายเป็นกระบอกเสียงที่ใช้ส่งผ่านให้ผู้มีอำนาจรู้ว่า เราไม่โอเคกับอะไรและเราต้องการอะไร” นักเรียนโรงเรียนสาธิต ม.มหาสารคาม กล่าว
ส่วน ธนพล มานะจึงเจริญ นักเรียนโรงเรียนสาธิต ม.มหาสารคาม อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับระบบเกณฑ์ทหารจึงต้องการให้ยกเลิก ทั้งนี้มีข้อมูลว่า ประเทศเราไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเกณฑ์คนจำนวนมากเพื่อเข้าไปตัดหญ้าในกองทัพ
“ในฐานะคนรุ่นใหม่ ผมเชื่อว่า ทุกคนคิดเหมือนกัน อยากเห็นประเทศไทยที่มีความเป็นธรรม มีประชาธิปไตยที่แท้จริงและอยากให้ทุกคนแสดงพลังเพื่อให้ผู้มีอำนาจเห็นว่า พวกเรามีตัวตนและประเทศนี้ก็เป็นของพวกเราเหมือนกัน” ธนพล กล่าว
ผู้ร่วมกิจกรรมเขียนความในใจต่อกรณี กกต.ยื่นเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญ
การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกรณี กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศผ่านเฟซบุคส่วนตัวก่อนชุมนุมหนึ่งวันว่า จะชุมนุมที่สกายวอร์ค แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ทำให้ผู้สนับสนุนและผู้เห็นด้วยกับแนวคิดนี้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อทวงคืนยุติธรรม “ไม่ถอย-ไม่ทน” ขึ้นในอีกหลายจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ ลำพูน อุดรธานี ขอนแก่น เป็นต้น