ขอนแก่น – กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ที่จัดขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พร้อมกับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศผ่านไปด้วยดี แม้บางจังหวัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและตำรวจจะกีดกันไม่ให้จัด โดยอ้างว่าฝ่าฝืน พ.ร.บ. ชุมนุมฯ
ผู้ร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง จ.อุบลราชธานี ชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วระหว่างร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง
สำหรับบรรยากาศวิ่งไล่ลุง จังหวัดอุบลราชธานี เฟซบุ๊กวิ่งไล่ลุงอุบลราชธานี ได้เผยแพร่ภาพกิจกรรม ตั้งแต่เวลา 05.30 น.ซึ่งผู้ร่วมงานได้เริ่มวิ่งจากทุ่งศรีเมืองไปยังวงเวียนหอนาฬิกา รวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยการทำกิจกรรมครั้งนี้ แม้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำป้ายข้อความเกี่ยวกับการฝ่าฝืน พ.ร.บ. ชุมนุมฯ มาติดตั้งใกล้จุดลงทะเบียน แต่กิจกรรมก็ผ่านไปด้วยดีในเวลา 07.30 น.
ผู้ร่วมกิจกรรมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” จ.นครราชสีมา ที่สวนภูมิรักษ์ต่างชู 3 นิ้ว เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ ภาพจากเพจเฟซบุ๊กวิ่งไล่ลุงโคราช
จังหวัดนครราชสีมา “วิ่งไล่ลุง” เพจเฟซบุ๊กวิ่งไล่ลุงโคราช จัดกิจกรรมที่สวนภูมิรักษ์ เวลา 14.00 น. มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน ซึ่งต่างพร้อมใจกันชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และตะโกน “ประยุทธ์ออกไป” โดยผู้ร่วมกิจกรรมได้พากันวิ่งรอบสวนภูมิรักษ์ทั้งหมด จำนวน 7 รอบ รวมระยะทาง 5.6 กิโลเมตร แม้กิจกรรมครั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 100 นาย มาคอยดูแลรักษาความสงบ แต่การจัดกิจกรรมครั้งนี้ก็ผ่านไปด้วยดี
หลังจากร่วมกิจกรรม “แล่น ลัก ลุง” จังหวัดมหาสารคามแล้วผู้ร่วมกิจกรรมได้ถ่ายรูปร่วมกันที่ศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ภาพจากเพจเฟซบุ๊กแนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย
ส่วนกิจกรรม “แล่น ลัก ลุง” จังหวัดมหาสารคาม ภาพจากเพจเฟชบุ๊กแนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย พบว่า เริ่มกิจกรรมตั้งเวลา 05.00 – 07.00 น. โดยนัดรวมตัวกันที่หน้าหอนาฬิกาเมืองมหาสารคามเพื่อวิ่งไปยังศูนย์การค้าเสริมไทยคอมเพล็กซ์ ด้วยระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ทั้งนี้ระหว่างการวิ่งออกกำลังกาย ผู้ร่วมกิจกรรมต่างชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว และแกนนำนักศึกษากลุ่ม มมส.เพื่อประชาธิปไตยได้ขึ้นรถเครื่องเสียงปราศรัยพร้อมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอดเส้นทาง
ผู้ร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” กาฬสินธุ์ เริ่มตั้งแถววิ่งและเดินจากหน้าโรงเรียนอนุกูลนารี ภาพจากเฟซบุ๊กไล่ลุงกาฬสินธุ์
สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน โดยกิจกรรมคร้ังนี้มี ปิยรัฐ จงเทพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ นำขบวนวิ่งจากหน้าโรงเรียนอนุกูลนารีไปตามถนนภิรมย์ ผ่านตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และวนกลับมาที่หน้าโรงเรียนอนุกูลนารี รวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยตลอดกิจกรรมการวิ่งไล่ลุงได้มีประชาชนคอยส่งเสียงให้กำลังใจ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่ตลอดเส้นทาง
ผู้ร่วมกิจกรรม “RAN ไล่พุง ไร้ลุง ไร้โรค” จ.ขอนแก่น ร่วมชูกล้วยหอมเพื่อส่งเสริมให้ทุกคนออกกำลังกายและเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองอีกรูปแบบหนึ่ง
ส่วนจังหวัดขอนแก่น จัดกิจกรรมที่ริมสระพลาสติก ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยนัดรวมตัวกันที่ศาลาสวนร่มเกล้ากาลพฤกษ์ หน้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ ก่อนจะวิ่งเข้าไปยังพื้นที่สระพลาสติกซึ่งอยู่ลบริเวณข้างเคียง และวิ่งรอบสระทั้งหมด 3 รอบ รวมระยะทางกว่า 2.4 กิโลเมตร
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด จ.เลย จัดกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง ฮั่นแน้ว’ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมวิ่งไล่ลุงทั่วประเทศ ภาพจากเพจขบวนการอีสานใหม่ New Isan Movement
จังหวัดเลย กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจัดกิจกรรม ‘วิ่งไล่ลุง ฮั่นแน้ว’ ที่ชุมชนนาหนองบง อ.วังสะพุง จ.เลย ในนาม ‘สามัญชนไทเลย’ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่กำลังจัดขึ้นทั่วประเทศ โดยระบุว่า “การจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกอย่างสงบและสันติ เป็นสิทธิของประชาชนทุกคน เราพร้อมจะปกป้องสิทธิและเสรีภาพจากเผด็จการ”
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
