ยศพนธ์ เกิดวิบูลย์ เรื่องและภาพ 

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาคดียุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคจำนวน 16 คน เป็นระยะเวลา 10 ปี วันนี้ ( 21 ก.พ. 2563) กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 

ศาลเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามมาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

“ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายพรรคการเมืองอต้องมีมาตรการควบคุมการบริหารพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชน  พรรคการเมืองต้องทำรายได้ของพรรคให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้พรรคเป็นเครื่องมือของใคร” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าวบางช่วง 

แม้พรรคอนาคตใหม่จะชี้แจงว่า พรรคทำสัญญากู้ยืมเงินจากธนาธรจริง และหลังการกู้ยืมก็มีการทยอยชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แต่ศาลก็มีความเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย พ.ร.ป. พรรคการเมือง ในหมวดที่ 5 ว่าด้วยรายได้ของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 และ 66

“แม้พรรคจะถูกยุบ แต่อุดมการณ์ของพวกเรายังเหมือนเดิม” อำนวย วิชาโคตร หัวหน้าสำนักงานสาขาพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดขอนแก่น ภาพโดย ยศพนธ์ เกิดวิบูลย์

ยุบได้แต่ชื่อ คนและอุดมการณ์ยังอยู่

กรณีดังกล่าวทำให้ อำนวย วิชาโคตร หัวหน้าสำนักงานสาขาพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดขอนแก่นรู้สึกเสียใจ เพราะเขาเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมสร้างพรรคจนได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 

“การตัดสินยุบพรรคครั้งนี้เท่ากับว่า ต่อจากนี้จะไม่มีพรรคที่ชื่ออนาคตใหม่แล้ว” หัวหน้าสำนักงานสาขาพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดขอนแก่น

แต่เขาและสมาชิกพรรคกว่า 1,700 คน ในขอนแก่น ยังยืนยันว่าจะยังอยู่ทำงานการเมืองด้วยกัน เพราะหลังจากนี้ ทีมงานพรรคส่วนกลางจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ชื่อใหม่แต่อุดมการณ์และนโยบายการทำงานยังเหมือนเดิม

“แม้พรรคจะถูกยุบ แต่อุดมการณ์ของพวกเรายังเหมือนเดิม เราจะร่วมกันต่อสู้ต่อเพื่อให้สังคมอยู่ดีกินดี ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมต่อไป” อำนวยกล่าว 

สมาชิกพรรคอนาคตใหม่จากอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น ร่วมให้กำลังใจคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ในคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ ที่ศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ ข้างบริษัทประกันชีวิต (เอไอเอ) จ.ขอนแก่น ภาพโดย ยศพนธ์ เกิดวิบูลย์

เชื่อถูกสกัดดาวรุ่งทางการเมือง

พรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคการเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 เปิดตัวพรรคและเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังเลือกตั้งได้รับคะแนนเสียงมากถึง 6.2 ล้านเสียง มีคะแนนเป็นอันดับสามรองจากพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย จนได้ที่นั่ง ส.ส. ในสภาฯ จำนวน 80 ที่นั่ง

พรรคอนาคตใหม่ชูวาทกรรมคนรุ่นใหม่ทำงานการเมือง เน้นอุดมการณ์และนโยบายทางการเมืองที่มุ่งแก้ไขปัญหาสังคมเชิงโครงสร้าง การกระจายอำนาจ สร้างรัฐสวัสดิการ และมุ่งสร้างการเมืองไทยใหม่ที่ไร้การยึดอำนาจรัฐประหารโดยกองทัพ ภาพโดย ยศพนธ์ เกิดวิบูลย์

สำหรับอำนวยแล้ว เขาเชื่อว่า คณะกรรมการบริหารพรรคถูกผู้มีอำนาจทางการเมืองกลั่นแกล้ง โดยผู้มีอำนาจพยายามสกัดกั้นการเติบโตที่รวดเร็วของพรรคอนาคตใหม่ในการเมืองไทย โดยมีการปิดกั้นการเคลื่อนไหว การทำกิจกรรมทางการเมืองตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้ง รวมถึงพยายามกล่าวหาว่าพรรคอนาคตใหม่หรือกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมาย

“ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า พรรค หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือแม้แต่ ส.ส. ของพรรค มักถูกฝ่ายตรงข้ามยื่นฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งที่ผ่านมาพรรคมีคดีกว่า 10 คดีอำนวยกล่าว

“ผู้มีอำนาจคงคิดกำจัดพวกเรา เพราะกลัวพวกเราจะเติบโตและเป็นที่นิยมในทางการเมืองจนไปขัดผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มอำนาจเก่า” กัณฐ์ พลพิมพ์ ข้าราชการเกษียณ สมาชิกพรรคอนาคตใหม่จังหวัดขอนแก่น ภาพโดย ยศพนธ์ เกิดวิบูลย์

คล้ายกับความเห็นของ กัณฐ์ พลพิมพ์ สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดขอนแก่น ที่เชื่อว่า พรรคอนาคตใหม่ถูกสกัดดาวรุ่งทางการเมืองจากผู้มีอำนาจ เพราะฝ่ายอำนาจเก่ารู้สึกว่า พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่อาจจะมีคนนิยมมากในอนาคตและอาจได้รับความนิยมจากประชาชนมาก คล้ายกับพรรคไทยรักไทยของทักษิณในอดีต 

“ผู้มีอำนาจคงคิดกำจัดพวกเรา เพราะกลัวพวกเราจะเติบโตและเป็นที่นิยมในทางการเมืองจนไปขัดผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มอำนาจเก่า” กัณฐ์กล่าว 

พรรคฯ กำลังระดมทุนจ่ายคืนธนาธร 

กัณฐ์ยืนยันในฐานะผู้ร่วมรณรงค์หาเสียงให้พรรคก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ว่าพรรคได้ขอกู้เงินธนาธรมาทำกิจกรรมพรรคจริง เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคใหม่ ต้องหาสมาชิกใหม่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีเงินทุนในการลงพื้นที่หาเสียง 

“พรรคอนาคตใหม่ไม่มีฐานเสียงเก่า ไม่มีอิทธิพลและอำนาจทางการเมืองในแต่ละพื้นที่ เงินกู้ที่กู้มาจากธนาธร ก็เอามาเพื่อทำงานการเมือง ไม่ได้เอามาเป็นรายได้ของสมาชิกพรรคหรือรายได้ของ ส.ส. แต่ละคน” กัณฐ์กล่าว

คล้ายกับอำนวยที่กล่าวว่า เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่วางเป้าหมายส่งผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบทุกเขตการเลืองตั้ง ซึ่งจำเป็นต้องมีเงินงบประมาณในการลงพื้นที่จัดกิจกรรมหาเสียงและงบประมาณบริหารในสำนักงานพรรคทั่วประเทศ 

“ขอนแก่นจะมีค่าเช่าอาคารเดือนละ 18,000 บาท ค่าจ้างพนักงานธุรกิจเดือนละ 15,000 บาท และค่าวัสดุสำนักงาน แต่ไม่มีค่าตอบแทนให้หัวหน้าสำนักงานหรือสมาชิกพรรคที่ดูแลสำนักงาน” อำนวยกล่าว

อำนวยกล่าวอีกว่า เงินกู้ดังกล่าวยังนำไปให้ผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละเขตการเลือกตั้งใช้ลงพื้นที่ โดยผู้สมัคร ส.ส. 1 คนจะได้เงินไปในใช้การทำกิจกรรมหาเสียง ค่าเช่ารถ ค่าอาหาร ค่าน้ำดื่มจำนวน 300,000 บาท เป็นต้น แต่ละเดือนสำนักงานพรรคแต่ละจังหวัดจะต้องจัดกิจกรรมระดม ขายสินค้าเพื่อนำรายได้จากการระดมทุนและขายของส่งเงินต้นและดอกเบี้ยคืนให้กับธนาธร

“ยืนยันว่าหลังจากนี้ พวกเราสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ขอนแก่นยังทำงานการเมืองในพื้นที่ เพราะความนิยมพรรคในอีสานเริ่มมีมากขึ้น ประชาชนเชื่อมั่นในอุดมการณ์ทางการเมืองของพวกเรา” อำนวยกล่าวทิ้งท้าย

และ หลังจากนี้เท่ากับพรรคอนาคตใหม่เหลือ ส.ส. ในสภาเพียง 65 คน

image_pdfimage_print