ภาพปก จากกิจกรรม มข.พอกันเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา โดย อติเทพ จันทร์เทศ
ชานนท์ ไชยทองดี เรื่อง
บุตรของฉันเกิดในปีที่สังคมมีความขัดแย้งระหว่างผู้คนจำนวนมาก
และเป็นปีเดียวกันกับที่สังคมเกิดเงื่อนไขบางอย่างจนใครคนหนึ่งอาสาจะเข้ามามอบความสุข
ในความสุขนั้นฉันเห็นเสียงและแววตาแห่งความหวังของคนจำนวนหนึ่งที่คิดว่าจะจับต้องความสุขของพวกเขาที่หายไปนาน
เขาเหล่านั้นยินดีปรีดาอย่างน่าอิจฉา ระรื่น ระริกระรี้ ออกหน้าออกตาอย่างสุขสันต์
ขณะเดียวกันฉันก็ได้เห็นคนอีกจำนวนหนึ่งที่หวั่นวิตกกับความสุขที่พวกเขาจำนวนนั้นกำลังจะได้รับ อกตรม หม่นไหม้ ใจตก หลบหน้าหลบตา ทุกข์ตรม
ฉันพบว่า มีคนหนึ่งที่มุ่งมั่นถ่ายทอดความสุขด้วยคำพูดที่ฉันไม่คิดมาก่อนว่าชาตินี้จะได้พบได้เห็นได้ยินและได้ฟัง…
เขาคนนั้นช่างหมั่นเพียรมอบความสุขให้ผู้คนเหลือเกิน
บุตรของฉันที่เกิดในปีแห่งการมอบความสุขนั้น
เขาเติบโตในห้วงแห่งปีของการติดตาม การเสาะหา การไล่ล่า การปิดกั้นผู้คนที่คิดต่างจากสิ่งที่เขาคนนั้นเสนอความจริงให้ผู้คนเชื่อ…ต้องเชื่อ ว่ามีความสุขในแบบที่เขาบอกเท่านั้น
แต่กลับกลายเป็นความสุขที่ฉันเห็น
ฉันเห็นบุตรของฉันเติบโตมาพร้อมกับภาพในสื่อ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภาพและสภาพแวดล้อมของความสิ้นหวัง
ภาพของความเพ้อเจ้อ ความเพ้อฝัน ความงมงาย การปลดหนี้ การปลิดชีพตัวเอง
เราต่างไม่มีความทุกข์ มีแต่ความสุข มีแตรอยยิ้ม เขายังคงมุ่งมั่นบอกเราอย่างนั้น …
ช่างสมกับเป็นยุคสมัยแห่งความสุขโดยแท้
กว่า 6 ปีที่บุตรของฉันเปลี่ยนผ่านวัยจากทารกสู่ความเป็นเด็ก
เด็กที่เริ่มอ่านออก เขียนได้ ระบายสีเป็น
เขาต้องใช้ชีวิตต่อไปในยุคสมัยแห่งความสุขที่ไม่มีการสนใจเรื่องมลภาวะ เชื้อโรคร้าย อาชญากรรม ภัยคุกคาม สิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย
การก่นด่า ผรุสวาท โทสวาท และการอ้างความชอบธรรมในการกระทำต่างๆ เพื่อผลักไสผู้ที่คิดต่างให้กลายเป็นคนเลว
กว่า 6 ปีที่บุตรของฉันและอาจรวมถึงบุตร ธิดาของคนอื่นที่เป็นบุตร-ธิดาแห่งสมัยของความสุข
ฉันไม่รู้ว่า บุตรของฉัน รวมถึงบุตรธิดา เหล่านั้น จะต้องมีความสุขเหล่านี้ไปอีกนานเท่าใด
หมายเหตุ: ความคิดเห็นหรือมุมมองต่างๆ ที่ปรากฎบนเว็บไซต์เดอะอีสานเร็คคอร์ด เป็นข้อคิดเห็นของผู้เขียน ซึ่งไม่ได้เป็นมุมมองหรือความคิดเห็นของกองบรรณาธิการเดอะอีสานเรคคอร์ด