ภาพปกโดย Chris Beale 

ขอนแก่น – ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นลงพื้นที่ตรวจด่านคัดกรองโควิด-19 สภ.ย่อยพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานช่วงเวลาเคอร์ฟิว  

สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่เมื่อคืนวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ถึงกระแสข่าวการปลดล็อกดาวน์สถานบันเทิงและสถานที่ต่างๆ ในวันที่ 1 พฤษาคม 2563 ว่า เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยก่อนหน้านี้จังหวัดขอนแก่นได้ออกประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นฉบับที่ 12 ให้ยกเลิกประกาศก่อนหน้านี้ แล้วให้สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายนก่อนและรอคำสั่งจากส่วนกลางเพื่อประเมินว่าแต่ละจังหวัดควรขยายเวลาออกไปหรือให้สิ้นสุด 

“ทุกจังหวัดจะต้องทำเป็นมาตรฐานเดียวกันคือ ให้การล็อกดาวน์สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายนไปก่อน แต่ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาขยายเวลาเพิ่มเติม ซึ่งต้องเป็นไปตามการประเมินของส่วนกลางว่า แต่ละจังหวัดมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน” สมศักดิ์กล่าวและว่า “ตอนนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ได้ประเมินแล้วว่า จังหวัดขอนแก่นอยู่ในกลุ่มที่ 2 คาดว่าอาจจะขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม” 

อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมข้อมูลและเตรียมความพร้อมสำหรับการปลดล็อก แต่ก็ต้องประเมินความเป็นไปได้และความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการปลดล็อก 

“เราลงทุนลงแรงมาพอสมควรแล้ว น่าจะทำให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหนื่อยกันอีกนิดเพื่อให้ทุกอย่างมันสงบดีกว่านี้ เพราะกลัวว่า ถ้าเราให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมแล้ว การแพร่ระบาดก็อาจจะกลับมาเหมือนต่างประเทศ ก็เท่ากับว่า เราลงทุนไปเสียเปล่า” ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าว 

สำหรับการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจหลังวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นบอกว่า ขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนและยังประเมินไม่ได้ โดยในวันศุกร์นี้ (24 เมษายน) ได้นัดประชุมร่วมกับภาคเอกชน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ภาคอีสาน) สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ภาคอีสาน) เพื่อมาวิเคราะห์ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ร่วมกันเร็วๆ นี้ จากนั้นจะประเมินความเสียหายกันอีกครั้ง 

“ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน แม้จะเป็นคำพูดง่ายๆ โดยผลกระทบไม่ได้เกิดที่จังหวัดขอนแก่นแห่งเดียว แต่ทั่วโลกประสบชะตากรรมเดียวกัน ผมก็ถามตัวเองตลอดว่า นี่เราฝันไปหรือเปล่าที่จะเจอสถานการณ์แบบนี้กันทั่วโลก” ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าว  

“จังหวัดขอนแก่นอยู่ในกลุ่มที่ 2 คาดว่าอาจจะขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม” สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าว ภาพโดย Chris Beale

ขณะที่ ขวัญชฎา พีระพัฒน์ปัญญาพล พยาบาลวิชาชีพประจำหน่วยคัดกรองโควิด-19 สภ.ย่อยพระลับ กล่าวว่า จากการวัดอุณหภูมิผู้สัญจรบนถนนสายเชียงยืน-ขอนแก่น ยังไม่มีผู้มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส ถือว่าปกติ 

“ขณะที่เราปฏิบัติหน้าที่ ก็ยอมรับว่ากลัวจะติดเชื้อ เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ถ้าเราตระหนัก ก็จะทำให้ไม่วิตกกังวล และเราจะสามารถดูแลตัวเองได้และให้คำแนะนำผู้เข้ารับการตรวจโควิด-19 ได้ถูกต้องตามหลักสาธารณสุข” ขวัญชฎากล่าว 

สำหรับประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นฉบับที่ 12 ลงวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา มีใจความข้อ 1 ว่า กำหนดเวลาการบังคับใช้มาตรการตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น เรื่อง มาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดขอนแก่น (ฉบับที่ 3) และ (ฉบับที่ 6) ให้ไปสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563 

ประกาศยังระบุในข้อ 2 อีกว่า กำหนดระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการตามประกาศจังหวัดขอนแก่น เรื่องมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดขอนแก่น (ฉบับที่ 8) ให้ไปสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563 ยกเว้นมาตรการข้อ 2 ให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ให้มีผลจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง 

ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่นได้ออกประกาศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมเป็นต้นมา โดยให้ปิดสถานบันเทิงและสถานที่สุ่มเสี่ยงการแพร่เชื้อ อาทิ โรงมหสพ สถานออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งต่อมารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศเคอร์ฟิวห้ามคนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มถึงตี 4 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนเป็นต้นมา 

image_pdfimage_print