กรุงเทพฯ – วันนี้ (27 พฤษภาคม 2563) องค์กรแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายระยะเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) พ.ศ. 2548 ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน และสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2563 

แถลงการณ์องค์กรแอมเนสตี้ฯ ระบุว่า จากการขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือนนั้น ขอให้ทางการไทยรับประกันว่า มาตรการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ต้องไม่ถูกใช้เพื่อละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน รวมถึงการจำกัดการใช้สิทธิที่จะเกิดขึ้นต้องเป็นไปอย่างได้สัดส่วนและต้องคุ้มครองสิทธิของกลุ่มคนชายขอบ 

“ขอให้ยกเลิกการดำเนินคดีกับบุคคลที่ใช้สิทธิเพื่อการแสดงออกอย่างสงบ รวมทั้งควรยุติการกักตัวผู้ลี้ภัยและผู้เข้าเมืองโดยพลการ” แถลงการณ์องค์กรแอมเนสตี้ระบุ และว่า “ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลไทยทบทวนมาตรการฉุกเฉินที่จะนำมาใช้รับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 หลังล็อคดาวน์มานานกว่า 2 เดือน” 

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เห็นชอบให้ขยายการประกาศใช้อำนาจฉุกเฉินตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) พ.ศ. 2548 และประกาศบนเว็บไซต์คณะกรรมการกฤษฎีกา โดยได้ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เพื่อรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อการเดินทาง การชุมนุม และเสรีภาพในการแสดงออก โดยมีบทลงโทษทั้งจำคุกและ/หรือปรับ 

image_pdfimage_print