ภาพปกเพจเฟซบุ๊กเหมืองแร่หนองบัว
หนองบัวลำภู – กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ – ผาจันได อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ยังคงปักหลักชุมนุมทางเข้า – ออกเหมืองหินของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด หลังการเจรจากับรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อให้ปิดเหมืองเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ล้มเหลว โดยวันนี้ (17 สิงหาคม 2563) ถือว่าเป็นการปิดทางเข้า – ออกเหมืองเป็นวันที่ 4
เมื่อวานนี้ (16 สิงหาคม 2563) ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ที่ปักหลักชุมนุมอยู่หน้าเหมืองได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 และถ่ายทอดสดผ่านเพจเหมืองแร่หนองบัว
เปี่ยม สุวรรณสนธ์ เป็นตัวแทนกลุ่มฯ อ่านแถลงการณ์มีใจความว่า นับตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่พวกเราชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารบ้านเมืองของจังหวัดหนองบัวลำภู นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ส่งรองผู้ว่ามาเจรจากับพวกเรา
“พวกเรามาปักหลักที่ทางเข้า – ออกเหมืองเพื่อประจานความล้มเหลวของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู”ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ทางกลุ่มฯ จะส่งตัวแทนไปกรุงเทพฯ เพื่อฟังการแถลงคดีก่อนการพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในวันที่ 18 สิงหาคม 2563 คดีนี้ชาวบ้านได้ฟ้องให้เพิกถอนใบอนุญาตการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลางเพื่อทำเหมืองแร่หินปูน ซึ่งจะหมดอายุวันที่ 3 กันยายน 2563 และให้เพิกถอนใบอนุญาตประทานบัตรที่กำลังจะหมดอายุวันที่ 24 กันยายน 2563
เปี่ยม สุวรรณสนธ์ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ประณามการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ภาพ : จดหมายข่าวเหมืองแร่หนองบัว
“ถ้าการแถลงคดีสอดคล้องกับคำพิพากษาชั้นต้นของศาลปกครองที่ให้ยกเลิกใบอนุญาตทั้ง 2 ก็คงจะเป็นกำลังใจให้เราได้เป็นอย่างดี หากผลของการแถลงคดีออกมาตรงข้ามก็ไม่ทำให้พวกเราท้อแท้สิ้นหวัง”เธออ่านข้อความในแถลงการณ์ฉบับที่ 1
ตัวแทนกลุ่มฯ อ่านแถลงการณ์อีกว่า ในวันเดียวกันเราจะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประจานความล้มเหลวและความเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรา
“เราจะรอคอยการแก้ไขปัญหาอย่างอดทน ไม่หวั่นไหว ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปิดเหมืองให้ได้ในรุ่นเรา ภายใต้ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1. ปิดเหมืองหินและโรงโม่ 2. ฟื้นฟูภูผาป่าไม้ และ 3.พัฒนาดงมะไฟให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและอารยธรรมโบราณคดี”เปี่ยมอ่านแถลงการณ์
ขณะที่ เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได สัมภาษณ์ในจดหมายข่าวของเหมืองแร่หนองบัวว่า ทางกลุ่มจะปักหลักชุมนุมบริเวณทางเข้าออกเหมืองให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ เพื่อรอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาฝนตกเกือบทุกวัน จึงถือเป็นอุปสรรคต่อการทำกิจกรรม
วันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ – ผาจันได ได้เข้าหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ปิดเหมืองหินที่ประกอบกิจการมานานกว่า 26 ปี โดยทางกลุ่มฯ ระบุว่า บริษัทเอกชนได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน แต่รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ที่เป็นประธานในประชุมระบุว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องรอหลักฐานและคำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษรในการสั่งปิดจากผู้มีอำนาจ จึงทำให้กลุ่มอนุรักษ์ฯ ลงมือปิดเหมืองด้วยตัวเอง
ดูวิดีโอที่เกี่ยวข้องที่นี่
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
