กลุ่มอนุรักษ์เขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เรื่อง
หนองบัวลำภู – เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 จดหมายข่าวจากกลุ่มอนุรักษ์เขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จ.หนองบัวลำภู กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโครงการเหมืองแร่หินปูน ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลําภู แจ้งว่า ในวันที่ 4 กันยายนนี้ ชาวบ้านจะเข้ายึดพื้นที่ทำเหมืองหิน หลังจากปักหลักปิดทางเข้า – ออกเหมืองตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
จุฑามาส ศรีทัตภผดุงกิจ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ ให้สัมภาษณ์ในจดหมายข่าวว่า การเคลื่อนไหวเข้ายึดพื้นที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับการชุมนุมคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่ครั้งสำคัญ
“เราจะเข้ายึดเขตเหมืองแร่และเปลี่ยนให้เป็นเขตป่าชุมชน” จุฑามาสกล่าว
จุฑามาสกล่าวอีกว่า เมื่อเข้ายึดเขตเหมืองแล้ว จะมีการทำกิจกรรมชมภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ถ้ำพระและถ้ำเสือ และชมวิวรอบตำบลดงมะไฟที่ชาวบ้านจะร่วมกันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
“เราจะปิดท้ายด้วยการล้อมวงพูดคุยผลกระทบที่ชาวบ้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้รับจากการทำเหมือง และการชูโมเดลการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวตำบลดงมะไฟ ในฝันหลังปิดเหมืองอีกด้วย” จุฑามาสกล่าว
ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่กล่าวอีกว่า ในวันที่ 4 กันยายน จะมีการจัดกิจกรรมเดินเข้าไปบริเวณเหมืองแร่ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเก่ากลอยและป่านากลาง โดยจะมี นางสอน คำแจ่ม ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิฯ ภรรยาของ กำนันทองม้วน คำแจ่ม นักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ลุกขึ้นมาต้านการสร้างเหมืองหินในพื้นที่ จนถูกยิงเสียชีวิตเมื่อ 22 เมษายน 2542 ถือรูปกำนันทองม้วน พร้อมกับร่วมกันแขวนป้ายผ้ายักษ์ที่เขียนข้อความให้เหมืองจบที่รุ่นเราตรงบริเวณพื้นที่ของภูเขาที่ถูกบริษัทเหมืองระเบิดหิน
รวมทั้งจะมีการบวชต้นไม้ทุกต้นในบริเวณเหมือง และปิดท้ายด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับป่าและต้นไม้ เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านที่ร่วมกันสู้มาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี
จุฑามาสกล่าวอีกว่า หลังจบกิจกรรม ชาวบ้านจะยังคงปักหลักปิดทางยึดเหมืองตลอดเดือนกันยายนเพื่อเรียกร้องให้รัฐปิดเหมืองหิน และจะทำหนังสือยื่นต่อส่วนราชการอย่างเป็นทางการเพื่อขอเป็นผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวแทนเจ้าของเหมืองที่หมดอายุการใช้พื้นที่ไป พร้อมกับขอขึ้นทะเบียนพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าชุมชนของชาวบ้านทั้ง 6 หมู่บ้าน
“ชาวบ้านจะปักหลักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวระยะยาวจนกว่าจะมีการเพิกถอนใบอนุญาตประทานบัตรทำเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หิน และจนกว่าจะมีการประกาศให้พื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่ป่าชุมชนของชาวบ้านตำบลดงมะไฟต่อไป” ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่กล่าว
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
