รองอธิการ มข.รับมีหนังสือจากกลุ่มปกป้องสถาบันให้ตรวจสอบอาจารย์ นักศึกษา จาบจ้วงสถาบันจริง ลั่นไม่เห็นด้วยกับคำสั่งผู้ว่าฯ เหตุมหาลัยฯ ต้องเป็นกลางทางวิชาการ ส่วนนักศึกษา-อาจารย์ขอพื้นที่แสดงออกทางวิชาการ

ขอนแก่น – วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงกรณีกลุ่มขอนแก่นปกป้องสถาบัน เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นให้ตรวจสอบอาจารย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นที่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์และมีหนังสือมาถึงอธิการบดีให้ดำเนินการว่า ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้รับหนังสือจากจังหวัดจริง แต่เราไม่เข้ากับฝ่ายใด ไม่สนับสนุน ไม่คัดค้านฝ่ายใด มหาวิทยาลัยเป็นกลางทางการเมือง

“เรื่องหนังสือคงต้องถามทางจังหวัดขอนแก่น เพราะว่าหนังสือมาจากทางจังหวัด แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่ค่อยเห็นด้วยกับการสั่งการนี้ พูดตรงๆ นะครับ มหาวิทยาลัยเราสั่งการตามปกติและเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับทางคณะ เรามีเสรีภาพทางวิชาการ”รองอธิการบดีฯ กล่าว

ทั้งนี้หนังสือฉบับดังกล่าวลงวันที่ 19 เมษายน 2564 กลุ่มขอนแก่นปกป้องสถาบัน นำโดยนางสาววรพรรณ เบญจวรกุล เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ให้ตรวจสอบอาจารย์ นักศึกษามหาวิททยาลัยขอนแก่นที่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากมีพฤติกรรมแสดงออกไม่เหมาะสม รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์ และกล่าวปราศรัยล่วงเกินสถาบันอย่างไม่เหมาะสม 

โดยท้ายหนังสือระบุ จังหวัดขอนแก่น ได้ขอให้ทำความเข้าใจกับทางคณะอาจารย์ และนักศึกษา และห้ามจาบจ้วงล่วงเกินต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากเป็นที่ยึดเหนียวจิตใจคนไทยทั้งชาติ 

นักศึกษากับพื้นที่ปล่อยภัยทางวิชาการ 

ทางด้านศิวกร นามนวด สมาชิกสภานักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกตกใจหลังทราบข่าวกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ส่งหนังสือบันทึกข้อความมายังอธิการบดีใทั้งนี้อยากทราบว่า ทางคณะ/วิทยาลัย ใช้เกณฑ์อะไรในการดูว่า ใครมีพฤติกรรมจาบจ้วง 

“มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่แห่งเสรีภาพทางวิชาการ เป็นพื้นที่ปลอดภัยได้การแสดงความคิดเห็น การที่มหาวิทยาลัยถูกตีตราจากคนบางกลุ่มว่า เป็นมหาวิทยาลัยล้มเจ้า ถือว่า เป็นการหมิ่นและดูถูกสติปัญญาของนักศึกษาในการแสดงออกทางการเมือง ผมยืนยันว่า การแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐาน”ศิวกร กล่าว

ศิวกร นามนวด สมาชิกสภานักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 2564 ขณะดำเนินรายการงานแสดงวิสัยทัศน์ผู้นำท้องถิ่น ว่าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น (เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564)

ด้านนิตยา พยัคฆศิรินาวิน นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  มองว่า กลุ่มปกป้องสถาบันกำลังสร้างความเกลียดชังให้กับคนสังคม เนื่องจากการตีแผ่ข้อเท็จจริงเพื่อให้สถาบันกษัตริย์ปรับตัวให้เข้ากับโลกสมัยใหม่จะทำให้  สถาบันกษัตริย์ยังดำรงอยู่ได้ อยากให้สังคมรู้ว่า มหาวิทยาลัย คือ พื้นที่สำหรับการตั้งคำถามต่อสิ่งที่มีอยู่และหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม 

“มหาวิทยาลัยขอนแก่นควรยืนอยู่บนพื้นฐานของการเป็นพื้นที่เสรีทางความคิด ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายภายใต้การเคารพในสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน เราแค่ต้องการพื้นที่เสรีภาพที่ความคิดเห็นของเราจะไม่ถูกคุกคามก็เท่านั้นเอง” นิตยา กล่าว

เสีองสะท้อนจากนักวิชาการ  

ธีรพล สกุลดี อาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการใช้ผู้มีอำนาจในจังหวัดเป็นเครื่องทางการเมืองให้กับกลุ่มขอนแก่นปกป้องสถาบัน และบังคับให้สถานศึกษาปิดกั้นการแสดงความเห็นทางวิชาการ เราต้องยืนยันในเสรีภาพทางวิชาการ เสรีภาพในการแสดงออก แม้แต่การวิจารณ์มาตรา 112 ซึ่งอยู่ในกรอบทางวิชาการ มหาวิทยาลัยควรปกป้องคณาจารย์ และนักศึกษาไม่ใช่ปล่อยให้กลุ่มนี้โจมตีบุคลากรและนักศึกษา

“ผมทำงานวิชาการ ด้วยการร่วมลงชื่อแแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 112 กับเยาวชน เป็นการล้มล้างสถาบันยังไง กลุ่มปกป้อมสถาบันฯ ต่างหากที่ดึงสถาบันมาเกี่ยวกับการเมือง กลุ่มขอนแก่นปกป้องสถาบันคงไม่ได้อ่านงานวิชาการของผม” นักวิชาการ ม.ขอนแก่น ตั้งคำถาม

image_pdfimage_print