ลุกฮือ ! บุคลากรณ์ทางแพทย์ รพ.อุดรฯ ไม่ทน เหตุถูกเบี้ยวค่าเสี่ยงภัยโควิด-19 ชุมนุมเรียกร้องและไล่ผู้บริหาร พร้อมประกาศยกระดับการชุมนุมหากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
อรนิภา สู้ณรงค์ เรื่อง
ณัชชาธร ศรีวงษา ภาพ Citizen Reporter of The Isaan Record
อุดรธานี – เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 (วานนี้) บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานีและประชาชนทั่วไปไม่ต่ำกว่า 100 คน ชุมนุมบริเวณฝั่งตรงข้ามของโรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากไม่ได้รับค่าเสี่ยงภัยขณะปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิดและเรียกร้องให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลาออก
ทั้งนี้ผู้ชุมนุมยังได้ชูป้ายข้อความเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมมีข้อความว่า มาทวงค่าเสี่ยงภัย, งานหนักไม่เคยเกี่ยงเงินเสี่ยงไม่เคยได้, จะอยู่บริหารต่อทำไม เป็นต้น
บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ โดยมีการผลัดกันปราศรัยโจมตีคณะผู้บริหารและอ่านแถลงการณ์เพื่อสื่อสารถึงเจตนารมณ์และต้นเหตุที่มาชุมนุมในครั้งนี้
แถลงการณ์มีใจความว่า การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ เพราะพบว่า การจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษของบุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิดไม่โปร่งใสและมีบุคลากรหลายรายที่ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนหรือได้รับค่าตอบแทนไม่ครบตามจำนวน อีกทั้งทางโรงพยาบาลไม่มีการแจ้งหรือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการอุทธรณ์ให้บุคลากรได้รับทราบผล
“หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจะมีการยกระดับการชุมนุมไปอีกขั้นหนึ่ง”แถลงการณ์ระบุ
ขณะทำกิจกรรมมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลรักษาความสงบตลอดการทำกิจกรรม
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
