นักวิชาการ-กลุ่มราษฎร์ดรัม ผนึกกำลังชาวบ้านสะพือ ร่วมทำบุญแจกข้าวผู้มีบุญบ้านสะพือ เจ้าอาวาสวัดบูรพาเตรียมสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกการเสียชีวิตโดยรัฐ คนแห่ร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์
อุบลราชธานี – เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2565 กลุ่มศิลปินและนักวิชาการอีสาน ผู้สนใจกว่า 30 คน ลงพื้นที่หมู่บ้านสะพือ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เพื่อร่วมทำบุญแจกข้าวแด่ผู้ล่วงลับในศึกโนนโพธิ์เพื่อก่อสร้างอนุสรณ์สถานโนนโพธิ์-บ้านสะพือ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะเมื่อปี 2445
เมื่อเวลา 15.00 น.พระครูสถิตบูรพาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดบูรพา หมู่บ้านสะพือ ได้พาชาวบ้านและกลุ่มผู้สนใจศึกษาเส้นทางประวัติศาสตร์ผู้มีบุญบริเวณโนนโพธิ์ที่เคยเป็นพื้นที่สู้รบเมื่อวันที่ 3-4 เมษายน 2445 พ.ศ.ระหว่างทหารสยามและกลุ่มผู้มีบุญ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 300 คน ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายผู้มีบุญ
ระหว่างการลงพื้นที่มีกลุ่มศิลปินราษฎร์ดรัม ตีกลองและแสดงละครใบ้ประกบการการลงพื้นที่ทางประวัติศาสตร์
พระครูสถิตบูรพาภิวัฒน์ กล่าวระหว่างพาลงพื้นที่ว่า รับรู้เรื่องโนนโพธิ์เป็นมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยใครรู้เรื่องราวนี้ชัดเจนเป็นแต่เพียงเรื่องเล่า โดยมีคนจากภายนอกมาสอบถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ผู้มีบุญเป็นจำนวนมาก จึงเรื่องเล่าที่เคยได้ยินให้ศิลปินมาเขียนภาพบนฝาผนังโบสถ์วัดบูรพาเพื่อเป็นเรื่องตำนานให้คนได้รับรู้
“เมื่อ 20 ปีที่แล้ว อาตมาเคยคิดอยากจะทำอนุสรณ์สถานการณ์และทำบุญให้กับผู้ล่วงลับ แต่ไม่เคยได้ทำ เมื่อมีผู้สนใจและอยากทำบุญปีนี้ จึงขอบริจาคที่ดินจากชาวบ้านบริเวณโนนโพธิ์มาได้ประมาณ 1 ไร่ เพื่อทำเป็นอนุสรณ์สถานให้กับผู้ล่วงลับและได้ขอให้ อบต.มาทำถนนคอนกรีตเพื่อความสะดวกในเข้าพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี” พระครูสถิตบูรพาภิวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ ถนอม ชาภักดี นักปฏิบัติการณ์ทางศิลปะและหนึ่งในคณะกรรมการจัดงานฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อการสร้างอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้ไม่ใช่การฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพียงแต่ต้องการบันทึกประวัติศาสตร์ไว้เท่านั้น
“บริเวณโนนโพธิ์เป็นเขตของผู้มีบุญ ลองคิดดูว่า 120 ปี พวกเราถึงได้มาเรียกขวัญ เรียกเอาวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ไหนก็ขอให้มา เราได้มาบอกมากล่าวว่า ขอให้ไปสู่สุขคติได้แล้ว พวกเรามาทำบุญให้แล้วและจะบันทึกเรื่องราวไว้ให้ลูกหลานเพื่อเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์”ถนอม กล่าว
การแสดงละครของกลุ่มศิลปินและกลุ่มราษฎร์ดรัม บริเวณที่ถูกเรียกว่า โนนโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพผู้มีบุญกว่า 300 คน
ผู้ร่วมกิจกรรมจากจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า มา จ.อุบลราชธานี เพื่อมาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยถูกพูดถึง ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการสังหารหมู่ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จึงสนใจอยากจะมาสัมผัสสถานที่จริง
“เรื่องนี้ควรได้รับการเผยแพร่ออกไป เหมือนใครเคยทำอะไรผิดไป เราไม่ยอมรับมัน แต่พยายามปิดบัง ไม่แก้ไขมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นความเคยตัว รัฐไทยทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด”ผู้ร่วมกิจกรรม กล่าว
โดยเวลา 19.00 น.ที่วัดศรีชมภู ต.สะพือ จะมีพิธีสวดอภิธรรมให้กับผู้ล่วงลับโดยพระ 12 รูป จากนั้นในวันที่ 4 เมษายน 2565 (พรุ่งนี้) จะมีการทำบุญตักบาตรเพื่อทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ
ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในตำบลสะพือที่มีจำนวน 5 หมู่บ้านได้ประชาสัมพันธ์ให้คนในหมู่บ้านร่วมบริจาคและร่วมกันทำบุญเพื่อสร้างอนุสรณ์สถาน
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
