“ออนซอนไพร์ด” ขอนแก่นเอาผ้าถุงคลุมอนุสาวรีย์ “จอมพลสฤษดิ์” เหตุออกกฎหมายคุม Sex Worker และกดขี่เพศหญิง พร้อมจัดพิธีสมรสเท่าเทียมให้ทุกเพศ
หทัยรัตน์ พหลทัพ เรื่องและภาพ
ขอนแก่น – เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เครือข่ายหลากหลายทางเพศอีสานและภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรม “ออนซอนไพร์ด” เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมกิจกรรมแต่งตัวแฟนซีและมีกลองยาวสร้างความบันเทิงให้ผู้ร่วมกิจกรรม
ก่อนเริ่มกิจกรรม พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.เมืองขอนแก่น ได้ชี้แจงกับผู้จัดกิจกรรมว่า ไม่ให้ผู้ร่วมกิจกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะ พรก.ฉุกเฉิน มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
จากนั้นกลุ่มผู้จัดกิจกรรมจึงเริ่มเดินรณรงค์จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยผ่านตลาดโต้รุ่ง สถานีตำรวจภูธรเมืองถึงอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ระหว่างทางมีประชาชนให้ความสนใจและโบกมือให้กำลังใจตลอดเส้นทาง
เมื่อผู้ร่วมกิจกรรมผ่าน สภ.เมืองได้หยุดเพื่อทำกิจกรรรมด้วยการจัดงาน “จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมจำลอง” โดยมีคู่สมรสที่มีความหลากหลายทางเพศขอทะเบียนทะเบียนสมรสจำลองถึง 5 คู่
เนย คู่สมรสหญิงรักหญิงบอกว่า การจดทะเบียนสมรสถือเป็นเรื่องที่ทุกเพศควรได้รับสิทธินั้นไม่ใช่เฉพาะการแต่งงานหญิงรักชาย ส่วนตัวคบกับแฟนมาระยะหนึ่ง ซึ่งในอนาคตก็อยากจะแต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้นจึงสนับสนุน ร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม
เมื่อเดินรณรงค์ถึงลานสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้จัดกิจกรรม “แฟชั่นเพื่อความเท่าเทียม” โดยมีข้อความบนป้ายรณรงค์ “สนับสนุนสมรสเท่าเทียม” “เป็นกระเทยเหมือนกันไม่ได้นะ”
จากนั้นได้เปิดเวทีให้ผู้ร่วมกิจกรรม “เทดทอล์ค” เพื่อความเท่าเทียม โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมหลายร้อยคน
ต่อมาเวลา 20.00 น.ตัวแทนกลุ่มนักกิจกรรมได้แสดงอาร์ตเพอฟอร์แมนและได้นำผ้าถุงที่ได้รับการตัดเย็บต่อกัน 3 ผืน แล้วปีนขึ้นไปคลุมตัวอนุสาวรีย์ ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อประณามการออกนโยบายเกี่ยวกับ Sex Workers และการกดขี่ผู้หญิงของจอมพลสฤษดิ์
ระหว่างการทำกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่นกว่า 50 คนยืนปะกบนักกิจกรรม พร้อมประกาศว่า “ขอให้ผู้นำผ้าคลุมอนุสาวรีย์ออกทันที เพราะถือเป็นการกระทำผิด พรบ.ความสะอาด มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ทีมข่าวพยายามสัมภาษณ์ ผกก.เมืองขอนแก่นถึงการจะดำเนินคดี แต่ไม่ตอบคำถาม ซึ่งต่อมาตำรวจได้นำผ้าคลุมออก
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 กลุ่มนักกิจกรรม จ.ขอนแก่น เคยนำผ้าถุงมาคลุมอนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มาแล้วหนึ่งครั้ง เนื่องในวันสตรีสากลเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีคนนี้กดขี่ทางเพศ โดยเฉพาะมีภรรยามากถึง 82 คน พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองหญิงที่ถูกคุมขังในเรือนจำขณะนั้น