หมาในมหาวิทยาลัย

เครดิตภาพ dogthailand

คุณจะเลือกชื่นชมสัตว์ชนิดใดระหว่างสุนัขจรจัดที่ยืนตรงและเห่าหอนเวลาได้ยินเสียงเพลงชาติและกระรอกตัวน้อยที่มีอิสระจากเสียงเพลงปลุกใจ เรื่องสั้น “หมาในมหาวิทยาลัย” ในคอลัมน์ชายคาเรื่องสั้นชวนตั้งคำถาม 

ในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยหมา พวกมันรวมกันเป็นกลุ่ม ครอบครองพื้นที่ทั่วมหาวิทยาลัย เมื่อพบกันจะแสยะแยกเขี้ยวเอะอะโวยวาย ไล่กัดกันเสียงดังลั่นน่ารำคาญ คุ้ยขยะในถังกระจุยกระจายเหมือนหิวตลอดเวลา พวกมันออกลูกหลานตามซอกมุมตึก แล้วเติบโตเป็นหมาหิวโซกินทุกอย่างไม่ละเว้น

​หมาพวกนี้แม้จะน่ารังเกียจเท่าไหร่และคนจะรำคาญพวกมันแค่ไหนก็มีพฤติกรรมที่คนเอ็นดูอยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อถึงเวลาแปดนาฬิกาตรงและสิบแปดนาฬิกาตรง ขณะมหาวิทยาลัยเปิดเพลงชาติจากเสียงตามสาย พวกมันจะหยุดกิจกรรมทุกอย่าง แล้วพากันเห่าหอนเหมือนกำลังร้องเพลงชาติ คนจึงรู้สึกตื้นตันใจว่า ชาติของเรานี้ช่างยิ่งใหญ่น่าภาคภูมิใจแค่ไหน แม้กระทั่งหมามันก็ยังร้องเพลงชาติ ฉะนั้นคนที่ได้ยินเสียงเพลงชาติแล้วไม่รู้สึกอะไรก็ให้ดูหมาเป็นตัวอย่าง

ไม่เหมือนพวกกระรอก พวกมันกระโจนไปมาบนต้นไม้ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น มันเป็นอิสระจากเสียงเพลงชาติ ไต่ต้นไม้จากต้นโน้นมาต้นนี้เป็นปกติขณะได้ยินเสียงเพลงชาติ

แต่แม้จะร้องเพลงชาติไม่เป็น คนก็เอ็นดูพวกมัน ทั้งนี้ก็เพราะมันน่ารัก หางของมันเป็นพวงฟูฟ่อง บางตัวมีหน้าท้องสีขาว บางตัวเป็นสีแดง บางตัวสีส้ม เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ทำจมูกฟูดฟิดและใช้ขาหน้าจับอาหารกินอย่างน่ารักใคร่ บางคนจึงนำผลไม้หรือขนมไปวางไว้โคนต้นไม้ รอดูมันค่อยๆ ไต่ลงมาอย่างระวังระไว เตรียมโทรศัพท์มือถือเพื่อถ่ายภาพ เอาไว้อวดเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊ค

กระรอกจึงเป็นที่รักของคนในรั้วมหาวิทยาลัย

วันนั้นฉันมีเรียนเช้า จึงเข้ามารอเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเร็วกว่าทุกวัน ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งนั่งกินบนโต๊ะหินอ่อนใต้ร่มหูกวาง  นักศึกษาทยอยเข้ามาจับจองที่นั่งกินอาหารเช้า พวกกระรอกกระโดดฉับๆ ว่องไว จ้องมองคนในระยะห่าง พวกมันหมายตาเศษขนมที่ถูกทิ้งในถังขยะจากมื้อเช้าของนักศึกษา มันไม่กล้าลงมาในทันที เพราะพวกหมาก็เพ่นพ่านหาอาหารกันแต่เช้าเหมือนกัน มันไต่ลงมาอยู่กลางลำต้นหูกวาง สอดส่ายสายตาด้วยความรอบคอบ ทำจมูกฟูดฟิดดมหากลิ่นแปลกปลอม แล้วก็ไต่ต้นไม้ขึ้นไปเพราะกระสากลิ่นอันตราย

เสียง ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก ดังขึ้นเป็นสัญญาณเตือนให้เตรียมตัวเคารพธงชาติมาจากเสียงตามสาย

…ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อเป็นชาติเชื้อไทย….

ทุกคนยืนตรง พวกหมาหยุดจากกิจกรรมทั้งหมด ส่งเสียงหอนยืดยาวเหมือนกำลังร้องเพลงชาติ กระรอกตัวหนึ่งค่อยๆ กระเถิบไต่ลงมาจากต้นหูกวางชูหางเป็นพวงฟูฟ่อง มันทำจมูกฟูดฟิดสูดดมกลิ่น กลอกดวงตากลมโตดำขลับสอดส่าย มันรู้สึกปลอดภัย เพราะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ บนพื้น

ไต่ลงมาถึงพื้นมันกระโจนไปที่ถังขยะ หาถุงขนมที่หมายตาไว้ มันทำอย่างคล่องแคล่วว่องไว จังหวะกระโดดลอยอยู่กลางอากาศเหมือนนักกายกรรมผู้ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี จังหวะที่มันจับเศษขนมมาดมนั้นเหมือนอาการของเด็กน้อยโลดเต้นยินดีกับห่อของขวัญ เพลงชาติร้องได้ครึ่งเพลง พวกหมาหยุดร้องกะทันหัน เหลือบสายตาพุ่งไปที่กระรอกตัวนั้น ส่งเสียงคำรามแล้วแยกเขี้ยว ก่อนกระโจนเข้าใส่ ทุกคนเหลือบสายตามองตาม

หมาตัวที่วิ่งนำหน้างับร่างกระรอกที่มัวแต่ยินดีกับห่อของขวัญโดยไม่ทันรู้ตัว ก่อนฝูงหมาจะแย่งกันงับร่างน้อยๆ ดึงกระชากอย่างเมามัน เขี้ยวที่แหลมคมจมลึก ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และพยายามจะก้าวขาเข้าไปช่วย แต่เพลงชาติยังไม่จบ มีบางสิ่งรั้งขาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อน มันมีอำนาจตรึงให้ทุกคนยืนนิ่ง ทำได้เพียงเหลือบสายตามองกันด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

…..เถลิงประเทศชาติไทยทวีมีชัยไชโย….

ฝูงคนกรูเข้าไปไล่พวกหมา มุงดูร่างกระรอกที่แหลกเละ

“เรามาช้าไป”

​หลังจากวันนั้น เมื่อเห็นผู้คนยืนตรงเมื่อได้ยินเสียงเพลงชาติ ฉันจะระลึกถึงกระรอกตัวนั้น

ผู้เขียน – วุฒิเดช มนต์ชัยวิศาล จบจากคณะรัฐศาสตร์ รั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหง ชอบอ่าน และอยากเขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันใช้เวลาว่างจากงานประจำอ่านและเขียน