อาชวิชญ์ อินทร์หา เรื่องและภาพ
ขอนแก่น – เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่และคนงานเร่งมือก่อสร้างบ้านโบราณแบบอีสานเพื่อเตรียมเทศกาลไหมนานาชาติมิติใหม่ที่จะขึ้นตั้งแต่ พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นการนำไอเดียมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นซุ้มสำหรับการจัดจำหน่าย ผ้าไหม อาหาร และวัฒนธรรม ซึ่งมีบ้านทั้งหมด 26 หลังจากแต่ละอำเภอในจังหวัดขอนแก่น
ศิวกร มิตราช ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าวถึงแนวคิดของการจัดเทศกาลงานไหมนานาชาติว่า เป็นแนวคิดของ ไกรสร กองฉลาดผู้ว่าฯ ที่ต้องการนำวัฒนธรรมที่เห็นได้เฉพาะในพื้นบ้านมารวมกันให้คนได้ชมและเพื่อลบภาพจำแบบเดิมๆ ที่งานเทศกาลนั้นมีแต่การตั้งร้านขายของทั่วๆ ไป
“จริงๆ แล้วในแต่ละอำเภอจะมีคนออกแบบ เสนอไอเดียความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละอำเภอให้เต็มที่ นั่นเป็นโจทย์ที่ผู้ว่าฯ อยากเห็น โดยแต่ละหลังจะมีการแสดงพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงผ้าไหมที่ขึ้นชื่อในอำเภอนั้นๆ ซึ่งรายละเอียดในการสร้างบ้านแต่ละหลังนั้น ไม่ได้มาจากการร่วมมือของแค่อำเภอเท่านั้น แต่ได้รับความร่วมมือจากตำบลต่างๆในอำเภอนั้นๆด้วย เช่น อำเภอเมืองขอนแก่นสร้างตัวบ้าน ก็เชิญคนจากตำบลดอนช้างมาช่วยสร้างหลังคาและแบ่งส่วนอื่นๆให้มาช่วยๆกัน แนวคิดการสร้างบ้านก็จะเป็นแบบนี้”ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองขอนแก่น กล่าว
สำหรับรายละเอียดในการสร้างบ้านแต่ละหลังนั้น ใช้แนวคิดการทำบุญขึ้นบ้านใหม่แบบประเพณีที่ทำสืบต่อกันมาในท้องถิ่น คือ มีการยกเสาเอกเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ส่วนบ้านแต่ละหลังใช้เวลาเฉลี่ยในการสร้างอยู่ที่อำเภอละ 15 วัน โดยประมาณ และจะต้องเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เพื่อรอพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่แบบพุทธ โดยการนิมนต์พระภิกษุมาเพื่อเจริญพระพุทธมนต์ ก่อนเทศกาลไหมนานาชาติจะเริ่มขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน – วันที่ 10 ธันวาคม 2565
จากสถานการณ์ฝนตกชุกในภาคอีสาน ทำให้หลายพื้นที่ต่างเตรียมการรับมือและเฝ้าระวังพายุจากมรสุมที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชี และแม่น้ำมูลในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.อุบลราชธานี หลายภาคส่วนต่างร่วมกันเตรียมการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำร้อยปี 2565
จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 กันยายน 2566 ซึ่งในวันที่ 8 กันยายน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทานและอยู่นอกพื้นที่ชลประทานเพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลณีโญ่พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ
วันนี้ 11.00 น. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชาวยโสธร ตั้งคำถามถึงกรณีล่าสุดที่ วิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ให้สัมภาษณ์ต่อรายการวิทยุประจำจังหวัด ซึ่งมีหลายประเด็นที่สร้างความไม่พอใจ โดยเฉพาะการกล่าวถึงประชาชนที่ยากจน ขี้เกียจ ไม่ทำงาน รอเพียงการช่วยเหลือจากรัฐบาล และไม่ต้องการให้ยโสธรเกิดการพัฒนา ซึ่งเมธา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กของตน ว่าเป็นวิธีคิดแบบเผด็จการ
นายก อบต.เกษตรวิสัย สั่งปลด 2 รองนายกฯ และเลขานายกฯ โดยไม่แจ้งความผิด หลังกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะเกษตรวิสัยลุกฮือปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น พร้อมให้ยกเลิกโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ตำบลเกษตรวิสัยทันที
