กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดโคราชตบเท้ายื่นหนังสือผู้ว่าฯ จี้ให้ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงเหมืองสร้างมลพิษให้ชุมชน พร้อมจ่ายเงินชดเชย เยียวยา ถ้าทำไม่ให้แนะให้ปิดเหมือง 

วรัญญู คงสถิตย์ธรรม เรื่องและภาพ

นครราชสีมา – เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 (วันนี้) ชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด ต.ลำคอหงษ์ อ.โนนสูง และ ต.หนองไทร อ.ด่านขุนทด กว่า 10 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเพื่อให้ส่งไปยังคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ (คนร.) เพื่อคัดค้านการจัดทำแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ฉบับที่ 2 และเรียกร้องให้การจัดทำแผนแม่บทฯ เป็นไปตามเจตนารมย์ของ พ.ร.บ.แร่ ต้องรับฟังความต้องการของคนในพื้นที่ โดยมีป้ายข้อความเหตุผลการคัดค้านต่างๆ มาชูบริเวณหน้าศาลากลาง 

นันทชัย หวังเลี้ยงกลาง ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด อ.โนนสูง กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านเดินทางมาเพื่อคัดค้านแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ฉบับที่ 2 โดยยืนยันว่า ไม่ควรให้มีเหมือง เพราะเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชนรอบเหมือนโพแทช อ.ด่านขุนทด 

“พวกเราจะทำทุกวิธีตามกระบวนการทางกฎหมายเพื่อคัดค้าน โดยจะร่วมแรงกับชาวบ้าน ผู้นำชุมชน จะช่วยกันจับตาเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มเหมืองแร่อยู่เสมอและยืนยันคัดค้านไม่ให้มีการออกประทานบัตรเหมืองแร่”ตัวแทนกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด อ.โนนสูง กล่าว

ขณะที่ ธนาวรรณ  ไกนอก ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด อ.ด่านขุนทด เล่าว่า ชุมชนของตนได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2560 ที่นา เพาะปลูกไม่ได้ น้ำเค็ม ดินเค็ม สัตว์เลี้ยงตายและที่ผ่านมาได้มีการรวมกลุ่มเพื่อคัดค้าน โดยได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดคนก่อน รวมถึงได้มีการพูดคุยเจรจากับหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่เป็นผล และทางกลุ่มฯ ยังยืนยันในข้อเรียกร้องเดิม 4 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย

1.ขอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผลกระทบจากเหมืองแร่โพแทช โดยมีสัดส่วนผู้ได้รับผลกระทบร้อยละ 50

2.ขอให้ผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งให้ บริษัท ไทคาลิ จำกัด จ่ายค่าชดเชยและเยียวยาผลกระทบที่เกิดชึ้นในพื้นที่

3.ต้องมีการแก้ไข/ปรับปรุงวิธีการทำเหมืองแร่ไม่ให้สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนอีก

4.หากบริษัทไม่สามารถแก้ไขได้ตามข้อ 1 , 2 และ 3 ต้องเพิกถอนประทานบัตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจ่ายค่าชดเชยเยียวยาแทน

จากนั้นสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นตัวแทนมารับมอบหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน โดยได้พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวแทนชาวบ้านทั้งสองอำเภอ 

“ยืนยันว่า ทางจังหวัดฯ กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน แต่ตอนนี้ยังคงต้องรอผลการตรวจสอบทางทรัพยากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจะสามารถเริ่มดำเนินการได้”รองผู้ว่าฯ กล่าว 

image_pdfimage_print