เวทีดีเบตแม่ทัพอีสาน “ภูมิใจไทย” โชว์ไอเดียคอนแทรคฟาร์มมิ่งรู้ราคาสินค้าเกษตรก่อนปลูก พักหนี้ทั้งต้นทั้งดอก 3 ปี ส่วน “รวมไทยสร้างชาติ” ชูโคล้านครอบครัวสัตว์วิเศษแก้จนคนอีสาน “เพื่อไทย” ดันเขตเศรษฐกิจใหม่อีสานปิดตำนานเร่ขายแรงงาน “ธนาธร” ย้ำก้าวไกลจะสร้างงานยกเทคโนโลยีมาไว้ที่อีสาน พร้อมชงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด “ไทยสร้างไทย” นำเสนอ 4 ด้านอีสานมั่งคั่ง ส่วน “พลังประชารัฐ” อวดนโยยายรถไฟรางเบาพัฒนาอีสาน-มอร์เตอร์เวย์ถึงหนองคาย-มีเราไม่มีแล้งเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 1 ล้านไร่ เอาด้วยเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดโอน-ขายได้ ขณะที่เรื่องกระจายอำนาจเลือกตั้งผู้ว่าฯ “เพื่อไทย ก้าวไกล พลังประชารัฐ” เห็นด้วยทำทันที ส่วนภูมิใจไทยบอกเห็นด้วยแต่ยังไม่ถึงเวลา
ที่ จ.ขอนแก่น รายการข่าวสามมิติจัดดีเบต หัวข้อเลือกตั้ง ’66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอน “แม่ทัพอีสาน” ดำเนินรายการโดยนายกิตติ สิงหาปัด มีผู้เข้าร่วมเวทีประกอบด้วยทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) อนุชา นาคาศัย ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรคพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.ป) และวิรัช รัตนเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
เกษตรร่ำรวยแบบภูมิใจไทย
ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเราคาดว่าจะได้ ไม่น้อยกว่า 20 คน ทั้งนี้ตนเป็นคนอีสาน ตนมองว่าภาคอีสานต้องดูในเรื่องปากท้องจริงๆ โดยเป็นเรื่องของอาชีพเกษตรกรรมและราคาพืชผลการเกษตร พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายเกษตรร่ำรวย โดยเชื่อว่าจะทำการเกษตรปลูกข้าวต้องรู้ราคาก่อนปลูก ถ้าจะขายก็ต้องรู้ราคาขายก่อน เพราะสงสารคนทำนาจริงๆ ที่ทำกันตามยถากรรมตามมรดกตกทอด พรรคภูมิใจไทยจึงคิดว่าต้องกำหนดราคาให้รู้ก่อนปลูก ถ้าปลูกไม่ได้ราคาก็อย่าไปปลูก แต่ว่าต้องมีประกันความเสียหายให้ โดยตัวเลขประกันของเราอยู่ที่ตันละ 12,000 บาท ถ้าราคาขายไม่ได้ถึงจำนวนนี้เราก็ดูแลไป ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิก็ตันละ 18,000 บาท ส่วนจะคล้ายกับการประกันราคาสินค้าเกษตรก่อนหน้านี้หรือไม่ ก็คล้ายกันแต่มันไม่ยั่งยืน ของพรรคภูมิใจไทยมีกรอบแนวคิดเรื่องนี้ว่าเป็นเหมือน contract farming (เกษตรพันธสัญญา) ต้องกำหนดราคาให้รู้กันก่อน
“ปัญหาบ้านเราวันนี้เกษตรกรทั้งหลายจะทำอะไรผมเรียนตรงๆ ว่าทำตามอำเภอใจ ไม่มีการกำหนดกฎเกณฑ์ และไม่มีคนไปควบคุมพื้นที่การปลูก demand กับ supply เท่าไร ความต้องการของตลาดโลกเท่าไร ไม่มีคนบอกเลย ปล่อยให้ประชาชนชาวบ้านตาสีตาสาทำไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็เป็นภาระรัฐบาลต้องเข้าไปช่วย ซึ่งมันเป็นประเด็นปัญหา” ทรงศักดิ์กล่าว
ทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ปัญหาเฉพาะหน้าของอีสานจริงๆ ก็คือคนอีสานมีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย ภูมิใจไทยจึงคิดถึงเรื่องที่จะสร้างรายได้ลดรายจ่าย โดยเฉพาะเรื่องของหนี้สินทั้งหลาย วันนี้จะมีการพักหนี้ที่เป็นหนี้ในระบบพักต้นพักดอก 3 ปี เพื่อเอาเงินที่เป็นหนี้ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปสร้างงาน สร้างรายได้ดูแลครอบครัว คือให้เวลาหายใจให้กับคนอีสาน พร้อมมีเงินกู้ฉุกเฉินให้อายุ 20 ปีขึ้นไป กู้ได้ 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน เอาไปสร้างหลักประกันความสุขในครอบครัว ในเรื่องการเรียน การประกอบอาชีพเสริม แต่ให้ผ่อนชำระเป็นรายวัน วันละ 150 บาท เป็นการให้โอกาสคนอีสาน ส่วนสูงผู้สูงอายุเกิน 60 ปีจะทำประกันชีวิตให้ฟรีอัตโนมัติ
กระจายอำนาจนั้นสำคัญ แต่ยังไม่ถึงเวลา
ทรงศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ นั้น ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ได้เกี่ยงเรื่องนี้ มีความพยายามคิดเรื่องการกระจายอำนาจอยู่พอสมควร แต่ว่าเนื่องจากพื้นที่ของประเทศไทยมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีสานเราจะเก็บรายได้จากประชากรในพื้นที่ได้ภาษีนิดเดียว ถ้าบอกว่าจะกระจายอำนาจไป 100% แล้วเขาจะเอาเงินงบประมาณจากตรงไหนมาพัฒนา ไปเทียบเคียงกับสมุทรปราการ เทศบาลใหญ่ๆ แถวสุวรรณภูมิ เขามีรายได้ประจำปี 1,000-2,000 ล้านบาท มีเงินสะสม 3,000 ล้านบาท ในขณะที่บ้านเราเก็บภาษีมาแล้ว มีเงินอยู่ประมาณ 40-50 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายประจำไปเหลืองบลงทุนอยู่ 10% เพียง 4-5 ล้านบาท ไปทำถนนลูกรังกระจายตามหมู่บ้านเท่านั้น ถามว่าการกระจายอำนาจเห็นด้วยหรือไม่ก็เห็นด้วย แต่ต้องดูบริบทภาพรวมของประเทศด้วย แต่คิดว่าวันหนึ่งต้องถึงเวลาเพราะอำนาจเป็นของประชาชน แต่วันนี้จะทำอย่างไรให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยมันสมดุลสมบูรณ์เท่าเทียมกันมันยังทำไม่ได้
สุทิน กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเราไม่ได้คาดการณ์เอง แต่โพลต่างๆ ให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเราที่ 45 คนขึ้นไป ทั้งนี้ในทุกปัญหาของคนอีสานมีคำตอบในนโยบายของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด เพื่อไทยมีทั้งนโยบายเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เราจะทำเป็นเฟสว่าจังหวัดไหนพร้อมก่อนเลือกก่อน ทันทีที่เราเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเลือกผู้ว่าฯ แน่นอน อาจจะไม่พร้อมกัน แต่ว่าเป็นรายจังหวัดที่พร้อม เพื่อให้เรียนรู้ไป ทั้งนี้ปัญหาภาคอีสานมันต้องมาตั้งหลักคิด มันไม่ใช่ว่าจะแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วจบ อีสานมันมีปัญหาทั้งปัญหาเฉพาะหน้าปัญหาเก่าดั้งเดิมที่ไม่แก้เสียที และปัญหาใหม่ที่เราเผชิญกับโลกต้องสู้ให้ได้
สัตว์วิเศษ และเกษตรกรอีสาน
ด้านอนุชา กล่าวว่า จากผลการสำรวจของโพลต่างๆ เราอยู่อันดับ 1 ใน 3 มาตลอดก็คาดการณ์ว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อขั้นต่ำ 25-30 คน ก่อนอื่นตนต้องบอกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำแล้วก็คือวางพื้นฐานของแผ่นดินอีสานก็คือรถไฟความเร็วสูง อีสต์-เวสต์ คอริดอร์ อันนี้คือเราอาจจะจับต้องไม่ถึง แต่ตนจะบอกว่าเปลี่ยนประเทศไทยอย่างไร เปลี่ยนอีสานอย่างไรนั้น คนอีสานหรือบรรพบุรุษของเราทำการเกษตรตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ทุกรัฐบาลไม่ใช่ผ่านมาแค่ 8 ปีนี้ ผ่านมาตั้งแต่ปี 2475 ตั้งแต่มีระบอบประชาธิปไตย ผ่านมากี่รัฐบาล มีแต่คำหวาน คำสวย เคยเห็นพี่น้องเกษตรกรชาวไร่ชาวนาหลุดพ้นจากยากจนบนแผ่นดินนี้หรือไม่ ถ้าไม่มีต้องคิดใหม่
อนุชา กล่าวต่อว่า มีสิ่งหนึ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะเปลี่ยนประเทศนี้ให้ลูกหลานไทย ไม่ว่าจะเกิดที่หมู่บ้าน ตำบลไหน ก็รวยได้ ท่านไม่ต้องเรียนเก่ง ท่านไม่ต้องรวย ท่านไม่ต้องมีทุน ท่านรวยได้ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน ด้วยอาชีพเสริมก็คือโคล้านครอบครัวโคเงินล้าน โคคณิตศาสตร์ ที่จะเพิ่มจาก 2 ตัวเป็น 10 ตัวภายใน 3 ปี ได้เงิน 300,000 บาท ท่านคืนมา 50,000 บาท เหลือ 250,000 บาท ภายใน 10 ปีท่านจะมีโค 288 ตัว คือเงิน 7 ล้านบาท จะทำให้ครอบครัวเขาหลุดพ้นจากความยากจนด้วยสัตว์วิเศษ และเป็นความคิดทางคณิตศาสตร์ไม่มีใครลบได้แน่นอน อีสานมีพื้นที่มากมายที่จะสร้างความร่ำรวยจากแผ่นดินเขาเอง ไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ ไม่ต้องพึ่งระบบที่ว่าจะเอาลูกหลานไทยกลับมาเป็นแรงงาน กลับมาถิ่นก็มาเป็นแรงงาน คิดได้อย่างไร คิดใหม่ได้แล้ว
“แผ่นดินนี้บรรพบุรุษสร้างให้เราลูกหลานไทยจะต้องรวยได้บนแผ่นดินนี้ ประเทศต้องเปลี่ยน และคิดใหม่ ยืนยันว่าเลี้ยงโคมากๆ ราคาไม่ตก ถ้าเลี้ยงทั้งประเทศ เรามี 10 ล้านตัว ยังขาดอีก 20 ล้านตัว ถ้าทั้งโลกในอีก 5 ปี จาก 57 ล้านตัน ความต้องการจะเพิ่มเป็น 100 ล้านตัน ให้ท่านเลี้ยงทั้งประเทศก็ไม่มีวันราคาตก ส่วนหากไม่ถนัดเลี้ยงโคจะเป็นการบังคับหรือไม่นั้น ไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นทางออก ถ้าเลี้ยงโคครึ่งประเทศเท่ากับลดการเพาะปลูกครึ่งประเทศ รัฐบาลทดแทนให้ท่านรวยแน่นอน” อนุชากล่าว
อีสาน EEC
สุทิน กล่าวว่า ปัญหาเฉพาะหน้าวันนี้ต้องยอมรับว่าอาชีพที่เยอะที่สุดของคนอีสานก็คือเกษตรกรกับขายแรงงาน พรรคเพื่อไทยถึงบอกว่าต้องแก้ปัญหาให้อยู่ได้ก่อน โดยดันสินค้าเกษตรให้มีราคาสูงขึ้นทุกตัวและลดราคาปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ผู้ใช้แรงงานเยอะก็เพิ่มค่าแรงให้ 600 บาท นี่คือปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่ง 600 บาทเป็นฐานขั้นต่ำเฉพาะหน้าต้องเอาให้คนอีสานรอดตายก่อน จากนั้นก็ไปสู่การแก้ปัญหาดั้งเดิมที่หมักหมมอยู่คือเรื่องน้ำ นอกจากนั้นต้องแก้เรื่องดินคือเรื่องที่ดิน เรื่องน้ำให้เป็นวาระชาติแก้ให้จบสิ้นซากเสียที
“ปัญหาเชิงรุกที่เราจะสู้ต่อไปก็คือทำทุกอย่างเพื่อไปสู่เขตเศรษฐกิจใหม่ เพื่อไทยมีนโยบายเด่นอันหนึ่งก็คือสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ใน 4 ภูมิภาค อีสาน เหนือ กลาง ใต้ ทำไมอีสานจะมี EEC ไม่ได้ สำหรับภาคอีสานที่เราศึกษาอยู่ตอนนี้พื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมคือ ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี บุรีรัมย์ เราตั้งใจจะทำทั้งในอีสานเหนือและอีสานใต้ด้วย พอเกิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ตำแหน่งงาน การผลิตและการแปรรูปอยู่ที่นี่ ดังนั้นปิดตำนานคนอีสานที่จะเร่ลงไปขายแรงงานที่ภาคกลาง ภาคใต้ที่อื่น ทั้งนี้การจะทำพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ จะต้องทำรถไฟความเร็วสูงที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยเสนอไว้ 3 แสนล้านบาทเท่านั้นให้เสร็จ ส่วนน้ำและดินต้องเป็นวาระแห่งชาติจัดการให้หมดเสียทีให้สิ้นซาก” สุทินกล่าว
อุตสาหกรรมนำอีสาน
ขณะที่ธนาธร กล่าวว่า มาในฐานะผู้ช่วยหาเสียง หลังเลือกตั้งจะเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีความตั้งใจว่าเลือกตั้งรอบนี้พรรคก้าวไกลจะได้คะแนนนิยมอย่างน้อย 30 ที่นั่ง ทั้งนี้พรรคก้าวไกลมีนโยบายที่ตอบโจทย์คนอีสาน อย่างแรกต้องบอกก่อนว่าเห็นด้วยกับคุณสุทิน ปัญหาความยากจนไม่ได้แก้ด้วยการลดหนี้ อาจจะจำเป็นในช่วงเวลาเฉพาะหน้าที่ประชาชนเดือดร้อน แต่ลดหนี้ยกหนี้ให้ตลอดไปไม่ได้ จะลดหนี้ระยะยาวต้องแก้ด้วยการจ้างงาน วันนี้ในระยะสั้นต้องช่วยเหลือเกษตรกร ตนถามว่าในที่นี่ใครเป็นหนี้ ธกส.บ้าง หลายคนที่เป็นหนี้ ธกส. วันนี้ทำงานจนตายยังใช้หนี้ไม่หมดเลย หนี้โอนต่อไปถึงลูก จนจากรุ่นสู่รุ่น ทำนาจนตายยังใช้หนี้ ธกส. ไม่หมด โอนกลับมาถึงลูกอีก ดังนั้นจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ต้องสร้างอุตสาหกรรม
“เห็นด้วยเลยเดี๋ยวให้คุณสุทินไปสร้างนิคมอุตสาหกรรม ผมสร้างงานให้ การสร้างนิคมนั้นง่าย ไถที่ดินให้เรียบเอาน้ำเอาไฟเข้าไป คำถามคือจะสร้างงานอย่างไร พรรคก้าวไกลต้องการที่จะตอบโจทย์คือขนส่งสาธารณะ ถ้าเราสร้างระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่จะเชื่อมโยงจุดสำคัญในพื้นที่เข้าด้วยกันได้ ต้นทุนของประชาชนจะลดลงได้มากเท่าไร จึงต้องมีการสร้างรถเมล์ไฟฟ้าในอีสาน ดึงลูกหลานเรากลับบ้าน มีงานที่ใกล้ตัว ใช้การจัดซื้อภาครัฐในการขับเคลื่อนสร้างอุตสาหกรรมใหม่สร้าง supply chain ใหม่ที่เป็นเทคโนโลยีของคนไทย ไม่มีเทคโนโลยีรวยไม่ได้ ดังนั้นต้องสร้างเทคโนโลยีของคนไทย พรรคก้าวไกลมีนโยบายจะสร้างรถเมล์ไฟฟ้าเพื่อทำให้เกิดคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายสำหรับประชาชน และเอาอุตสาหกรรมรถเมล์ไฟฟ้ามาตั้งที่อีสาน” นายธนาธร กล่าว
เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด
ธนาธร กล่าวว่า ในเรื่องที่ดิน ส.ป.ก. ตนเห็นว่าควรจะต้องเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด วันนี้พรรคก้าวไกลพร้อมแล้ว โดยเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเขตที่ดิน ส.ป.ก. 2518 จะแก้ไขปัญหา ส.ป.ก.ได้ต้องแก้ที่กฎหมาย ซึ่งก็คือกฎหมายตัวนี้ โดยได้รับฟังปัญหาจากประชาชนมาแล้ว เลือกตั้งเสร็จไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลจะยื่นร่างกฎหมายนี้เข้าสภา ร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด พรรคก้าวไกลพร้อมแล้ว พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ โดยภาพใหญ่คือการปฏิรูปรัฐราชการรวมศูนย์เอาอำนาจและงบประมาณกลับคืนให้คนต่างจังหวัดเสีย เพื่อให้เขาได้มีอำนาจในการกำหนดการพัฒนาของเขาได้ด้วยตัวเอง
ส่วนต่อพงษ์ กล่าวว่า สำหรับภาคอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 1 ใน 3 ของประเทศ มีพื้นที่ 105.5 ล้านไร่ ประชากร 26 ล้านคน ถ้าเรามองด้านโอกาสมันคือโอกาสจริงๆ คนเยอะ พื้นที่ใหญ่ แต่มันกลับกัน วันนี้พื้นที่ใหญ่แต่ไม่ได้ทำให้เกิดรายได้อย่างสูงสุด คนเยอะกลับเป็นหนี้สิน ดังนั้นถ้าเปรียบเทียบว่าอีสานเป็นร่างกาย มันเป็นร่างกายที่เป็นอวัยวะใหญ่ที่สุด ถ้าเรามาแก้ปัญหาอีสานให้มันหายจน หมดหนี้ มีรายได้มีอนาคตอย่างแท้จริง ไทยสร้างไทยเราพูดถึง 4 ด้าน อีสานมั่งคั่ง 1.ต้องพัฒนาเรื่องน้ำ โดยโครงการเดิมที่นายประจวบ ไชยสาห์น พ่อของตนทำไว้คือโขง ชี มูล วันนี้ไทยสร้างไทยจะส่งเสริมในเรื่องโขง เลย ชีมูล 2.แก้ปัญหาในเรื่องที่ดิน 3.เราสามารถขายในเรื่องวัฒนธรรมได้ วันนี้สายมูมาแรง ต้นทุนไม่เยอะแต่สร้างความมั่นใจให้กับเราได้ 4.ที่สำคัญต้องส่งเสริมให้อีสานเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง แล้วคน 26 ล้านคนจะเต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาส ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ถ้าถามว่าท้องถิ่นพร้อมหรือยัง ถ้าเลือกผู้ว่าฯ อบจ. เทศบาลจะไปอยู่ตรงไหน ดังนั้นถ้าถามไปถึงการเลือกผู้ว่าฯ วันนี้ไปจัดระบบความซ้ำซ้อนในเรื่อง อบจ. เทศบาลและ อบต.ดีกว่า
ท่าเรือบกขอนแก่น
ขณะที่วิรัช กล่าวว่า สำหรับในภาคอีสานพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายคือจะนำรถไฟรางเบาขนคนในเขตบริเวณเมืองใหญ่ โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น ถามว่าวันนี้ทำถึงไหนแล้ว อยู่ในระหว่างการเตรียมให้เงินกู้ของเทศบาลนครขอนแก่น โดยกระทรวงคมนาคมดูแลเรื่องนี้ ซึ่งจะเป็นที่แรกของประเทศไทยที่คนขอนแก่นจะมีรถไฟรางเบาบริหารโดยคนขอนแก่น เรื่องต่อมาคือมอเตอร์เวย์ที่มาจากบางประอินมาถึงโคราชแล้วแต่ยังติดขัดเรื่องด่านเล็กน้อย ต่อไปในอนาคตมีแผนการจากนครราชสีมามาถึงขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย จะเป็นเส้นทางหลักในการขนสินค้าเกษตรและการท่องเที่ยว ทำให้ภาคอีสานดีขึ้น
วิรัช กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่ดีมากกว่านั้นก็คือวันนี้เราไม่ต้องขนสินค้าภาคเกษตรจากอีสานไปลงที่แหลมฉบัง เราจะมีท่าเรือบกแห่งแรกเกิดที่ จ.ขอนแก่น โดยอยู่ระหว่างการสำรวจในบริเวณ อ.น้ำพอง วันนี้ทำแล้วแต่อาจจะยังไม่เสร็จ แต่พรรคพลังประชารัฐจะนำมาเป็นนโยบายดำเนินการต่อ นอกจากนั้นยังมีเรื่องแหล่งน้ำอีก โดยเฉพาะมีเราไม่มีแล้ง วันนี้อีสานเรามีปัญหามากที่สุดคือภัยแล้ง และระบบชลประทานที่ได้ปีละประมาณ 2 แสนไร่ วันนี้พรรคพลังประชารัฐบอกว่าจะทำอย่างไรให้ภาคอีสานมีระบบชลประทานเพิ่มขึ้น 5 แสน – 1 ล้านไร่ ถ้ามีน้ำไม่มีจน ถ้ามีน้ำก็มีงานเกิดขึ้นมา และยังมีนโยบายอีกหลายอย่าง เช่น ค่าแรง 700 เป็นต้น นอกจากนั้นเรื่องที่ดิน ส.ป.ก.ที่เป็นความอึดอัดของคนอีสาน พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายเอา ส.ป.ก.เปลี่ยนเป็นโฉนดในรายที่ครอบครอง ส.ป.ก.มาแล้ว เกิน 10 ปี ถ้าจะโอนให้ลูกโอนได้เลย แต่ถ้าจะขายได้โฉนดไปแต่ติดครุฑแดงไว้ 5 ปีถึงจะโอนได้ ทำได้เลยและทำทันทีถ้าเป็นรัฐบาลในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ ไม่ต้องรอถึงปี 2570 ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ คิดว่าเลือกได้ทุกระดับดีหมดและคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ โดยทยอยทำในแต่ละจังหวัด