กระแสเพลงสัญญาเดือนหกของ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” ปลุกให้ประเพณีบุญบั้งไฟในถิ่นอีสานปีนี้คึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นอกจากเสียงเพลงแล้ว การผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตการณ์โควิดก็ทำให้ประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อขอฝนของชาวอีสานเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากกว่าทุกปี

“ธงเขียวขึ้นแล้ว ธงเขียวโบกสะบัด ขอให้โชคดี 3… 2…. 1….ไป !” สิ้นเสียงนับถอยหลังของโฆษกที่ประกาศผ่านไมโครโฟนดังกึกก้อง 

และแล้วบั้งไฟที่ทำจากท่อพลาสติกและลำไม้ไผ่ความยาวกว่าสองเมตรก็เปล่งประกายไฟและพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า พร้อมปล่อยควันสีขาวพวยพุ่งคละคลุ้งปนกับเสียงเฮฮาของผู้คน 

ความสูงและอยู่นาน คือ ความสำเร็จของผู้เป็นเจ้าของบั้งไฟ เมื่อหัวปลายแหลมทิ่มลงสู่พื้นเป็นอันสิ้นสุด ถือเป็นความสุขชั่วนาทีหรือสองนาทีแล้วแต่วัสดุที่จัดทำบั้งไฟ ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาของคนอีสานที่มาอย่างยาวนาน 

การแข่งขันจุดบั้งไฟของชาวหมู่บ้านพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ปีนี้ใช้พื้นที่บนคันนาเป็นห้างบั้งไฟเพื่อประชันความสามารถของนักแข่ง 

กมลชนก เนตรวงษ์ หรือ พริ้งพราว นักศึกษา ม.มหาสารคาม ชาวจังหวัดร้อยเอ็ดที่กลับมาเยี่ยมบ้านในเทศกาลบุญบั้งไฟ

กลับบ้านมาดูบุญบั้งไฟ 

กมลชนก เนตรวงษ์ หรือ พริ้งพราว นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคามวัย 20 ปี กลับบ้านที่อำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานบุญบั้งไฟ เพราะนับตั้งแต่เกิดการระเบิดของโควิดปีนี้ถือว่า จัดงานเป็นปีแรกจึงทำให้เธอและญาติๆ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ

“สาเหตุที่กลับบ้าน เพราะว่าจะได้เจอญาติ ประเพณีบุญบั้งไฟบ้านเราเป็นเหมือนวันรวมญาติ แล้วก็อยากมาร่วมสนุกกับประเพณีบ้านเรา เพราะหนึ่งปีมีครั้งเดียว ถ้าไม่กลับมาก็จะรู้สึก เฮ้ย ! มันขาดอะไรไปหรือเปล่า เพราะว่าทุกคนก็รอการกลับมาเจอกันผ่านเทศกาลนี้”เธอเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส 

เธอบอกอีกว่า ถ้าเทศกาลสงกรานต์ คือ การกลับมารวมกันของประเทศไทย ประเพณีบุญบั้งไฟก็มีความหมายแบบนั้น เพราะถือเป็นการรอคอยของคนที่บ้านที่รอการกลับมาของลูกหลานเพื่อหวังจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาและทำกิจกรรมร่วมกันในวันบุญใหญ่นี้

หลังโควิดเทศกาลงานบุญคึกคัก

พิษโควิดที่ผ่านมา สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนในพื้นที่ ไม่มีการจัดงาน ไม่มีผู้คน ไร้การพบปะ ต่างคนต่างกลัวกับโรคระบาดที่เกิดขึ้น งานบุญบั้งไฟได้ถูกสั่งห้ามจัดด้วยเช่นเดียวกัน 

“ปีนี้คนในหมู่บ้านกลับมาเยอะมากๆ เพราะทุกคนรอเทศกาลนี้มาตั้งแต่ตอนโควิด มีหลายคนที่กลับมาร่วมงานบุญบั้งไฟ ทั้งบอย พนมไพร (นักร้อง) ที่มาจัดคอนเสิร์ต เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม และมี ต้องเต -ธิติ เดิมทีทำหนังอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษก็กลับมา เป็นบรรยากาศความสนุกที่หายไป”เธอเล่าไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ 

ขบวนแห่บั้งไฟ จ.ร้อยเอ็ด ที่ตกแต่งอย่างอลังการ 

เพลง “สัญญาเดือนหก” ปลุกกระแสบุญบั้งไฟ 

เมื่อมีวิกฤติย่อมมีโอกาส  เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทุกคนต่างโหยหาความสนุกที่หล่นหาย แสงสีเสียงจากการประกวด การฟ้อนรำต่างนำรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าของผู้คนในทุกช่วงวัยที่ปีนี้บุญบั้งไฟมาพร้อมกระแสเพลงสัญญาเดือนหกอันโด่งดังที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ 

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 นักร้องหนุ่มลูกอีสาน ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นามว่า โจอี้ ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ ได้เปิดตัวเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า ‘สัญญาเดือนหก’ มีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า 

“ออกจากเมืองที่วุ่นที่วายสักครั้ง มาโอบกอดความหลังที่เฮายังคุ้น

ที่เฮายังไม่ลืม มาโอบกอดความรัก

พักใจให้หายเหนื่อย (หายเหนื่อย) คืนหวนมาแผ่นดินอิสาน

บุญบั้งไฟเดือนหก กลับบ้านเฮามาเอาบุญเดือนหก

จุดบั้งไฟขอให้ฝนมันตก อ้อนวอนฟ้าขอให้ฝนมันตก

ตกแฮง ๆ ให้บักแตงเป็นหน่วย

ตกอ่วยๆ ให้บักกล้วยเป็นหวี

โอ้ฮะโอ ฮะโอ (โอ้ฮะโอ้ ฮะโอ้)” 

ถ้อยคำในเพลง ถือเป็นเชิญชวนให้คนสนุกสนานไปกับประเพณีบุญบั้งไฟ และเชื้อเชิญให้ผู้คนออกจากเมืองใหญ่เพื่อกลับบ้านมาร่วมงานบุญใหญ่ด้วยกัน

เครดิตภาพจาก Genierock

พริ้งพราว ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่คนสนใจและรู้จักงานบุญบั้งไฟอาจจะเป็นเพราะเพลงของโจอี้ด้วยหรือเปล่า  เนื่องจากได้ถ่ายทอดความเป็นอีสานจริงๆ 

“เพลงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนคิดถึงบุญบั้งไฟ ตั้งแต่ปล่อยเพลงมาคนที่ไม่รู้จักก็ได้รู้จักเพราะเพลงนี้” พริ้งพราวเล่าถึงความรู้สึกหลังจากได้ฟังเพลง

หลังปล่อยเพลง “สัญญาเดือนหก” ผู้คนให้ความสนใจเรื่องของประเพณีบุญบั้งไฟมากขึ้น มีหลายคนที่อยากจะเข้ามาเรียนรู้ และสัมผัสกับบรรยากาศจริง

“เคยมีความรู้สึกอยากมาเที่ยวหรือสัมผัสกับประเพณีนี้ ด้วยความไม่ใช่คนอีสาน และไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนอีสานเลย ทำให้อยากรู้จักวิถีความเชื่อว่า  แตกต่างจากภาคเหนือที่เราอยู่ไหม” ณัธนิชย์ จิรวรรณาวัชร์ นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟ หลังจากที่ได้ฟังเพลงสัญญาเดือนหก

ส่วน ฟ้ารุ่ง แสงภักดี ชาวจังหวัดสระบุรี นักศึกษาจบใหม่ที่บอกว่า อยากจะไปดูประเพณีนี้เหมือนกัน ถ้าได้ดูใกล้ๆ อาจจะตื่นเต้นกว่าดูผ่านหน้าจอ 

“พอเห็นการจุดบั้งไฟก็นึกถึงการปล่อยจรวดออกนอกโลกในต่างประเทศ เราอยู่ไทยก็ได้ดูปล่อยจรวดเหมือนกัน ก็แอบภูมิใจนะ อนาคตใครจะไปรู้ คนที่เชี่ยวชาญสร้างจรวดออกนอกโลกอาจเป็นคนที่มีถิ่นกำเนิดมาจากภาคอีสานที่เคยมีประสบการณ์ทำจรวดบุญบั้งไฟก็ได้” เธอกล่าวพร้อมกับประกายแห่งความหวัง 

ผู้เข้าร่วมแข่งขันแบกบั้งไฟเพื่อติดตั้งบนนั่งร้านก่อนเข้าสู่กระบวนการจุดบั้งไฟ 

นัยบุญบั้งไฟกับเพลงสัญญาเดือนหก 

จากประเพณีบุญบั้งไฟที่มีความหมายต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่มีความสำคัญอยู่แล้ว ประกบคู่กับเพลงที่ถูกขับร้องจากต้นกำเนิดร้อยเอ็ด ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับประเพณี โดยเฉพาะเรื่องความคิดสร้างสรรค์ 

ฟ้ารุ่ง ยังแสดงความเห็นหลังจากได้ฟังเพลงสัญญาเดือนหกว่า สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงในประเพณี แม้จะมีมานาน แต่ความทันสมัยหรือเทคโนโลยี ไม่อาจทำลายสิ่งที่สืบทอดรุ่นต่อรุ่นได้ 

ขณะที่ อาตียะห์ สะนิ นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เข้าใจว่า อีกมุมหนึ่งของประเพณีบุญบั้งไฟเป็นจุดเชื่อมให้ครอบครัวที่ออกไปอยู่ต่างจังหวัดได้กลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิด 

“หากเปรียบเทียบกับศาสนาอิสลาม การกลับมาบ้านเกิดคงจะคล้ายวันรายอ ที่ญาติ พี่น้อง กลับมาเยี่ยมผู้ใหญ่ หรือร่วมเฉลิมฉลองด้วยกัน”เธอแสดงความเห็น 

สืบสาน ส่งต่อ คงอยู่ 

บุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานและของลาว โดยมีต้นกำเนิดจากนิทานพื้นบ้านเรื่องพญาคันคาก และเรื่องผาแดงนางไอ่ ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้ 

งานบุญบั้งไฟของจังหวัดยโสธรได้รับการส่งเสริมจากรัฐให้คนรู้จักครั้งแรกเมื่อปี 2523 ส่วนของ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด มักจัดงานในทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี 

สุวาส เชิงหอม ผู้ประกอบอาชีพขับรถรับจ้างในชาวอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ประเพณีบุญบั้งไฟมีมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ส่วนตัวก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งอยากให้มีการอนุรักษ์สืบสานต่อไป รวมทั้งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอสำหรับการจัดงานแบบนี้ หวังว่า ประเพณีบุญบั้งไฟจะไม่สูญหาย

“เป็นเรื่องที่ดีที่คนเด็กยุครุ่นใหม่ให้ความสนใจในประเพณีของไทยในฐานะคนเก่าคนแก่ก็สนับสนุนให้เด็กทุกคนยังอนุรักษ์ประเพณีไว้” เขากล่าวทิ้งท้าย 

image_pdfimage_print