วิเคราะห์เหตุ “พลังประชารัฐ” ตีฐาน “เพื่อไทย” ขอนแก่นเขต 7 แตก
นักวิชาการอีสานชำแหละผลเลือกต้ังซ่อมเขตขอนแก่น เลือกคนหน้าเก่า ชี้นโยบายสมัยทักษิณหมดยุค เหตุถูกแทนที่ด้วยประชานิยมยุคลุงตู่
นักวิชาการอีสานชำแหละผลเลือกต้ังซ่อมเขตขอนแก่น เลือกคนหน้าเก่า ชี้นโยบายสมัยทักษิณหมดยุค เหตุถูกแทนที่ด้วยประชานิยมยุคลุงตู่
ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่นเขต 7 พลังประชารัฐเฉือนชนะเพื่อไทยเพียง 2 พันคะแนน “สมศักดิ์ คุณเงิน” แต่งตัวเป็น ส.ส.ขอนแก่น
ส.ส. อีสานสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นรัฐบาล ก่อนจะถูกพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และคณะ ยึดอำนาจรัฐประหารเมื่อปี 2557 ยกมือขอสิทธิ์วิจารณ์คุณสมบัติ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจขัดกับกฎหมายเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
ไผ่ ดาวดิน นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องโทษคดี 112 กรณีแชร์รายงาน “พระราชประวัติ ร.10” ได้รับการปล่อยตัว หลังได้รับการอภัยโทษ ด้านบิดาเผย สังคมอย่ามองกรณีลูกชายเป็นอุทาหรณ์ เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แนะควรเป็นอุทาหรณ์ให้เจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายไม่เป็นธรรมกับประชาชน
ผ่านพ้นการเลือกตั้งอันเป็นวิถีประชาธิปไตยมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์ แต่ทว่าหลายคนยังรู้สึกเคลือบแคลงใจในกระบวนการต่างๆ อยู่ไม่น้อย จนถึงกับอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่า ตนถูกหลอกให้เลือกตั้งหรืออย่างไรกันแน่
เพื่อไทยยังชนะในอีสาน แต่จำนวน ส.ส. เขตลดลง นักวิชาการแนะเพื่อไทยควรปรับตัว อย่าให้คนเรียกว่า “เสาไฟฟ้า” ไม่ทำอะไรก็ชนะ เพราะหลังจากนี้คนอีสานมีตัวเลือกไม่ใช่แค่เพื่อไทย ด้านนักวิชาการศึกษาคนเสื้อแดงเผย คนอีสานเลือกเพื่อไทยไม่ใช่แค่นโยบาย แต่เลือกเพราะต้องการแก้แค้นที่พรรคฯ ที่ตนรักถูกรังแกมากว่า 10 ปี ด้านคนอีสานหวัง หลังเลือกตั้ง ทหารไม่ควรยึดอำนาจอีก
ในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่ความเป็นธรรมและเป็นประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพในการออกแบบ มีส่วนร่วม และตัดสินใจในวิถีชีวิตและอนาคตของตนเอง
หลายพรรคต่างหวังคะแนนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก แต่การคาดหวังที่จะให้กลุ่มคนเหล่านี้เทคะแนนเสียงให้ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยความที่เป็นคนรุ่นใหม่ เติบโตมากับสื่อออนไลน์ ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีให้เข้าถึงจำนวนมาก รวมทั้งมีประสบการณ์ทางการเมืองที่ต่างกัน ทำให้ค่านิยมและทัศนคติทางการเมืองของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรกจึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาได้
หลังทหารยึดอำนาจเมื่อปี 2557 คนเสื้อแดงหลายคนถูกนำตัวไปปรับทัศนคติ ติดตามและปิดกั้นการเคลื่อนไหว แม้แต่การเรียกร้องเรื่องปากท้องยังถูกเหมารวมว่าเป็น “ม็อบการเมือง” การเลือกตั้ง 24 มีนานี้ จึงเป็นความหวังที่จะมีเสรีภาพทางการเมืองอีกครั้ง