นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง

1.

จากขบวนรถไฟสายอิสาน

ไต่ค่ำคืนยาวนานผ่านความหวัง

สัมภาระแบกบ่าพะว้าพะวัง

ล้วนเทถั่งหลั่งแรงแต่งชีวี

หัวลำโพงโยงยางทางหมื่นสาย

ผลิตผลคนมากมายขยายคลี่

เพื่อนมันบอกให้มาต่ออนุสาวรีย์ฯ

แล้วต่อมาอีกทีที่พักเรา

สู่การงานผ่านผันวันละนิด

ผสมปูนก่ออิฐปิดมุมเสา

ลบคมเหลี่ยม เซี้ยม ฉาบ อาบแสงเงา

กระแซะศอกหยอกเย้าเหล่าคนงาน

เหนื่อยก็พักหนักก็ผ่อนเมืองร้อนร้าย

ลมยังพอได้พัดพายร่ายขับขาน

แว่วเสียงเพลงหมอลำย้ำห้วงกาล

กลิ่นปลาแดกยังแทรกผ่านซาบซ่านนัก

ทำก่อสร้างร่างกายคล้ายแข็งขัน

แต่หัวใจซิไหวหวั่นมันกร่อนหัก

ทิ้งทุ่งนาป่าทามทิ้งความรัก

ทิ้งบ้านเก่าเสลาสลักทิ้งปลักตม

นั่นแหละคือเนื้อแท้เพียงแค่นี้

ความขัดสนชนเดือนปีที่หมักบ่ม

หวังภาระจะคลี่คลายสลายปม

ต้องถั่งถมอีกเท่าไรก็ไม่รู้

2.

วันเวลาเปลี่ยนไปวัยเปลี่ยนผ่าน

ยังตรากตรำกรำงานการเป็นอยู่

บางเย็นชืดยืดยาวร้าวฤดู

นึกถึงดินนุ่มฟูชูชีวิต

นึกถึงฟ้าถึงฝนคนข้างหลัง

จนบางครั้งหลั่งน้ำตามากลบปิด

นึกถึงบ้านหลังน้อยจ้อยจิริด

ถึงครอบครัวรั้วติดสนิทกัน     

เขาโยกย้ายขยายเรือนจากเถื่อนทุ่ง

บ่ายหน้าสู่เมืองกรุงมุ่งสู่ฝัน

เร่ขายแรงแปลงเหงื่อเพื่อเดิมพัน

บนวิถีแห่งชนชั้นขั้นบันได

ต่างกระจัดกระจายคล้ายแปลกหน้า

ต่อเมื่อตาสบตาฆ่าสงสัย

ที่ลึกล้ำคือสำเนียงเสียงภายใน

จนกระทั่งเห็นเข้าไปถึงนัยน์ตา

คิดย้อนทวนหวนกลับเกินนับแล้ว

แต่ดวงใจไม่ไร้แววปรารถนา

ด้วยเลือดเนื้อชีวิตจิตวิญญาณ์

นั้นแกร่งกล้ากว่าที่ใครจะคิดนึก…

*

image_pdfimage_print