โศกนาฏกรรมกลางกรุง คือคำหนึ่งที่อธิบายถึงของเหตุการณ์การล้อมปราบคนเสื้อแดง ได้เห็นภาพอย่างชัดเจนที่สุดหลังรัฐขอ “ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่” สู่ “ปฏิบัติการกระชับวงล้อม” ในวันที่ 10 เมษายน – 19 พฤษภาคม 2553 

กว่า 13 ปีแล้วที่ผู้ลงมือยิงผู้ชุมนุมยังลอยนวล และทิ้งบาดแผลฉกรรจ์อันร้าวลึกให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นำมาซึ่ง โศกนาฏกรรมครอบครัว ที่นำพาแม่คนหนึ่งเดินทางจากพื้นที่ห่างไกลบนแผ่นดินอีสานมารับศพลูกสาวที่ทำงานในกรุงเทพมหานคร

วิลัยวัน สรรพศรี อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมูม่น อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี คือหนึ่งใน ‘แม่’ ของครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553

14 พฤษภาคม 25563 ขณะเลิกงาน สันธะนา สรรพศรี อายุ 32 ปี กำลังนั่งรถบริเวณซอยหมอเหล็งเพื่อกลับบ้าน ที่นั่นอยู่ใกล้กับพื้นที่การล้อมปราบครั้งใหญ่ที่แยกราชประสงค์ และบริเวณนั้นอยู่ใกล้กับบริเวณที่ถูกขึ้นข้อความว่า “เขตกระสุนจริง” วันนั้น สันธะนา ซึ่งไม่มีส่วนใดๆ กับการชุมนุมกลับไม่ถึงที่พัก เธอกลายเป็นศพที่ถูกนับรวมกับ 94 ชีวิต โดยมีคำอธิบายทางการแพทย์ว่าถูกคมกระสุนเข้าเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอฉีกขาด

13 ปี หลังการสลายการชุมนุมเสื้อแดง ปี 2553 เราคุยกับแม่ของเธอ – แม่ที่รอเธออยู่ที่บ้าน

อยากให้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก

แม่มีลูกสองคน ผู้เสียชีวิต คือ ไก่ (นางสาวสันธะนา สรรพศรี) เค้าเป็นลูกสาวคนโต เราสนิทกันมาก ไก่เรียนหนังสือเกิดและโตอยู่ที่อุดรฯ อยู่บ้านเรามาตั้งแต่ยังเล็ก แต่ตอนเกิดเรื่อง ไก่อายุได้  32 ปี เค้าไปทำงานเป็นล่ามแปลภาษาในบริษัทญี่ปุ่นที่กรุงเทพฯ ตอนเด็กๆ ไก่เป็นเด็กที่ร่าเริงและนิสัยดี เพื่อนฝูงเยอะ เค้ามีไอดอลเป็นจินตราเลยชอบร้องเพลงมาก ร้องเพลงเพราะด้วย ส่งประกวดร้องเพลงตั้งแต่ประถมฯ พ่อไก่เค้าชอบทางดนตรี เห็นลูกชอบร้องเพลงก็ซื้อเครื่องเสียงคาราโอเกะไว้ที่บ้าน เราว่างๆ ก็ร้องเพลงด้วยกัน พอไก่อายุได้ 23 ก็เริ่มไปทำงานเมืองนอกหาเงินส่งครอบครัว ตอนแรกไปไต้หวัน จากนั้นก็ไปญี่ปุ่น พอกลับมาที่ไทยบริษัทก็เรียกตัวไปเป็นล่ามเพราะพูดภาษาญี่ปุ่นเก่งได้ไปทำงานอยู่แถวพญาไท ตอนนั้นไก่เป็นเสาหลักของครอบครัว ดูแลค่าใช้จ่ายอะไรหลายๆ อย่าง

วันเกิดเหตุรู้ข่าวได้อย่างไร และเหตุการณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร

วันเกิดเหตุทางโรงพยาบาลพญาไทโทรเเจ้งเข้ามาว่า ไก่เสียชีวิตให้มารับศพ แต่ปลายสายไม่ได้แจ้งว่าเหตุเกิดจากอะไร แม่ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ตอนนั้นแม่ก็ดูข่าวเราก็เป็นห่วงแต่ก็ถึงไม่ถึงว่าจะเป็นลูกเรา เพราะไก่ไม่ได้ไปเคลื่อนไหวทางการเมืองแต่แค่ว่าทำงานอยู่แถวนั้น ตอนนั้นไก่กำลังจะกลับที่พักกับแฟนจากที่ทำงาน เค้าห้ามคนออกมาแต่แกอ้อมมาข้างหลังแบริเออร์จะลัดไปที่หอพัก พอขับรถไปเจอทหาร ทหารจ่อปืนมาเลย วินาทีนั้นคนขับรถเห็นรถก็ล้มเสียหลักแต่ว่าไก่หลบลงไม่ทัน เลยถูกยิงที่คอทะลุไปข้างหลัง ไก่โดนลูกหลงและทหารตั้งใจยิงแบบไม่คิดเลย ทหารตั้งใจฆ่าคน จากนั้นทหารก็วิ่งมา มีรถมาเอาศพไก่ไป…(เงียบ) แฟนไก่เลยโทรหาญาติพี่น้อง แล้วเดินตามกันไปที่โรงพยาบาล…(เงียบ) ถ้าเราไม่ตามเค้าคงเอาศพไปทิ้ง ตอนเย็นทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้ง แต่เค้าประกาศเคอร์ฟิวมีออกข่าวทางโทรทัศน์ แม่ใจจะขาดเพราะแม่ไปไม่ได้นอนร้องไห้ทั้งคืนแทบจะเป็นบ้าไม่ได้หลับได้นอน 

พอตอนเช้าแม่รีบเดินทางขึ้นเครื่องไปก็ร้องไห้ไปตามทางไม่หยุด เดินเข้าไปที่โรงพยาบาลเค้าให้เข้าไปดูศพได้แค่คนเดียว วินาทีที่เดินเข้าไปศพเรียงอยู่เต็มหรือถูกกองอยู่ไว้ก็มี เพราะไม่มีญาติมารับที่บอกว่าเก้าสิบกว่าศพไม่จริงเลย ศพมีเยอะ แม่พยายามเดินดูเพื่อหาศพลูกตัวเองเพื่อรับพี่เค้ากลับบ้าน แม่ใจสลายมาก แม่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ พ่อไก่ก็เกือบตรอมใจตาย พอกลับบ้านก็เริ่มป่วย ไม่อยากออกไปเจอใครอยู่หลายเดือน นั่งร้องไห้กอดรูปลูกสาวอยู่ในบ้านไม่ไปไหน ความเสียใจครั้งนี้มันอธิบายไม่ได้และมันจะไม่มีวันหายไป…(เงียบ – ร้องไห้) แม่ไม่ไหว ไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้

หลังจากนั้นมีคนเข้ามารับผิดชอบ หรืออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ไหม

ช่วงเกิดเหตุการณ์แรกๆ ไม่มีคนมาอธิบายหรือรับผิดชอบอะไร ก็จะมีแต่นักข่าวที่เข้ามาถามข้อมูล หลังจากตอนนั้นก็มีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตไปเรียกร้องแม่ก็ไปร่วม แม่ก็ลงไปเดินทางจากอุดรไปกรุงเทพแต่ละครั้งก็ยากลำบากและไกล จะไม่ไปก็ไม่ได้ ไปเรียกร้องความยุติธรรมเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกเรา…(เงียบ) แต่มันไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้นหรอก…(เงียบ) ทั้งช้าไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่างและนานมากกว่าเค้าจะให้คำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น

รัฐบาลตอนนั้นช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร ผลการชันสูตรออกมาว่าอย่างไร

เงินเยียวยามาจากตอนที่ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ เค้าให้เงินมาประมาณเจ็ดล้านห้าแสนบาท หักค่าโน้นค่านีออกเหลือเจ็ดล้าน ตอนแรกเค้าบอกว่าจะดูแลไปตลอดแต่ว่าให้เงินเสร็จก็จบ…(เงียบ) เค้าเงียบไปเลย แม่เคยบอกเค้าว่า เจ็ดล้านมันจะมาทดแทนลูกสาวแม่ไม่ได้ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นครอบครัวเราก็จะมีความสุขพร้อมหน้าพร้อมตาไม่เป็นแบบนี้ จะยอมมั้ยล่ะ เอาเงินเจ็ดล้านคืนไปแล้วยิงคนที่สั่งฆ่าให้ตายไปเลย…(เงียบ) ส่วนผลการตรวจ DNA ที่กระสุนหลักฐานไม่ระบุเลยว่าใครฆ่าเอาผิดใครไม่ได้ทั้งที่เห็นว่าเป็นทหารยิง ถูกระบุว่าแค่ถูกยิงด้วยกระสุนโดนเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิต 

มีความเห็นอย่างไรกับกรณีที่รัฐใช้กระสุนจริงในที่ชุมนุม

รัฐบาลในตอนนั้นทำเกินเหตุใช้อาวุธจริงยิงคนตาย เอามายิงจริงๆ ไม่มีความประนีประนอม แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้เรียกร้องทางการเมืองยังถูกยิง ไม่ได้อยู่จุดที่เค้ายิงคนตายเยอะๆ ด้วยซ้ำ แค่อ้อมไปข้างหลัง ทหารตั้งใจยิง ล้อมฆ่าประชาชน

ตอนมีชีวิตอยู่ ลูกสาวเคยบอกกับแม่ไหมว่า มีความฝันเกี่ยวกับชีวิตอย่างไร

เราอาจจะไม่ได้คุยเรื่องความฝันกันมาก พอเจอกันก็คุยกันถามกันเรื่องชีวิตปกติ แต่ไก่ก็เป็นอนาคตของพ่อของแม่ แม่จำได้ว่าไก่มักบอกว่า ‘ถึงเราจะไม่ได้ครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ลูกจะทำทุกอย่างให้พ่อกับแม่ได้อยู่สบาย’ แต่พอลูกเริ่มจะมีการงานมั่นคงเลี้ยงดูเราได้ก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น…(เงียบ) ถ้าตอนนี้ไก่ยังมีชีวิต อาจจะได้เห็นไก่ไปประกวดร้องเพลงในโทรทัศน์ก็ได้ ถ้าเป็นทุกวันนี้คงดังเลย เพราะไก่เสียงดีมาก แม่คิดถึงลูก

หากสามารถพูดโดยตรงกับคนที่สั่งยิงประชาชนในวันนั้น อยากจะออกอะไร

มันเป็นสิ่งที่ติดใจของมามาโดยตลอด แม่อยากพูดว่าความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหน ผู้มีอำนาจเห็นเราเป็นไร แล้วยิงประชาชนทำไม คนที่ถูกยิงอย่างลูกสาวแม่มีแต่คนธรรมดาคนรากหญ้าเราทั้งนั้น แล้วสิ่งที่ดูแลเยียวยาดูแลเรา มันเพียงพอมั้ย คุณแทนชีวิตคนด้วยเงิน 7 ล้าน มันเอาอะไรมาเทียบกับลูกสาวที่เราเสียไปไม่ได้เลย…(เงียบ) ไม่มีวัน

image_pdfimage_print