จากกรณี เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง เขียนบทความในคอลัมน์โลกหมุนเร็วตอน “อุปนิสัยที่ชี้ชะตากรรม” ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 ถึง 19 ธันวาคม ที่วิจารณ์การแต่งงานของหญิงอีสานกับชาวต่างชาติและเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเหยียดผู้หญิงอีสานนั้น 

เว็บไซด์นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์​ได้ออกจดหมายชี้แจงและขออภัยจาก เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง กรณีการใช้ภาพหญิงอีสานประกอบบทความ “อุปนิสัยที่ชี้ชะตากรรม” ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 ถึง 19 ธันวาคม ทำให้เกิดความเสียหาย 

จดหมายระบุว่า จากกรณีมีผู้ใช้นาม Jessica Difford ได้แจ้งผ่านการโพสต์เฟซบุ๊กมาผู้เขียนบทความและกองบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์ว่า ภาพที่ใช้ประกอบบทความในคอลัมน์โลกหมุนเร็วเรื่อง “อุปนิสัยที่ชี้ชะตากรรม” เป็นการนำภาพมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพอย่างเป็นทางการ 

“ภาพอาจสร้างความเสียหายให้เจ้าของภาพ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม ดูถูกสตรีอีสานที่แต่งงานกับชาวต่างชาต ดิฉันได้ขออภัยในส่วนเนื้อหาบทความที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้ว ด้วยความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น” จดหมายชี้แจงจากเพ็ญศรีระบุ 

ก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊คในนาม Jessica Difford ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กไฟล์ความยาว 56 นาทีที่มีผู้ชมย้อนหลังเกือบ 6 หมื่นครั้งถึงความรู้สึกหลังจากอ่านบทความและการใช้ภาพประกอบบทความ “อุปนิสัยที่ชี้ชะตากรรม” โดยไม่ขออนุญาต 

ภาพสาวอีสานและสามีชาวต่าชาติที่ประกอบบทความ “อุปนิสัยที่ชี้ชะตากรรม” ของ เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง บนเว็บไซด์มติชนสุดสัปดาห์

ข้อความในคลิปวิดีโอมีใจความว่า การนำรูปไปประกอบบทความทำให้เธอถูกเหมารวมว่า เกาะสามีที่เป็นชาวต่างชาติกิน ทั้งที่เธอก็ทำมาหากินด้วยการประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งบทความนี้นำภาพของเธอและสามีไปประกอบในแง่ลบทำให้เกิดความเสื่อมเสีย  

“เป็นหยังเป็นผู้หญิงต้องมาดูถูกผู้หญิงนำกัน คือ เหยียดกันคักแท้ เหยียดเฮ็ดหยัง เหยียดพวกข่อยเฮ็ดหยัง” เจสสิก้ากล่าวระหว่างเฟซบุ๊คไลฟ์และว่า “ข่อยบ่ได้ไปฆ่าไผ ตอนอ่านกะเจ็บใจ เสียใจ แต่บ่ได้แค้น ข่อยผิดตี้ที่เกิดอยู่อีสาน ข่อยผิดอีหยัง”

ส่วนกรณีที่เพ็ญศรีระบุในบทความว่า ผู้หญิงอีสานไม่ชอบเรียนหนังสือ แต่แต่งงานกับชาวต่างชาติ เพราะต้องการยกฐานะนั้นเธอชี้แจงว่า เธอแต่งงานกับสามีด้วยความรัก ทั้งที่ก่อนแต่งงานสามีมีหนี้สิน แต่เธอก็แต่งงานด้วย เพราะความรัก ทั้งนี้เจสสิก้าได้อ่านบทความด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและช่วงท้ายเฟซบุ๊คไลฟ์ด้วย 

image_pdfimage_print