หทัยรัตน์ พหลทัพ เรื่อง
อติเทพ จันทร์เทศ ภาพ
อุบลราชธานี – เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ กลุ่มประชาชนชาวอุบลราชธานี นำโดย บัณฑิต วิลามาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคอนาคตใหม่ รวมตัวกันด้านหน้าศาลหลักเมือง จังหวัดอุบลราชธานี กว่า 50 คน ซึ่งเป็น 1 วันหลังการตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่และตัดสิทธิ์ทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม
การชุมนุมครั้งนี้มีข้อความบนแผ่นพลาสติกระบุว่า “#ประเทศกูมี #ยุบให้ตายกูก็ไม่เลือกมึง” “Save นิรนาม” เป็นต้น โดยมีกิจกรรมให้ผู้ร่วมชุมนุมแสดงออกด้วยการเขียนข้อความบนแผ่นกระดาษ และร่วมกันจุดเทียน แต่ลมแรงจึงไม่สามารถจุดเทียนได้ ผู้นำการชุมนุมจึงขอให้ผู้ร่วมกิจกรรมเปิดไฟจากโทรศัพท์มือถือแทนการจุดเทียน แล้วร้องเพลง “กำลังใจ” ของโฮป เพื่อให้กำลังใจพรรคอนาคตใหม่ โดยมีการชุมนุมประมาณ 1 ชั่วโมง (เริ่มตั้งแต่ 1 ทุ่ม)
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้ร่วมชุมนุมเป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจติดตามสถานการณ์หลังการตัดสินยุบพรรค โดย ธนัชชา ภพลาภ อายุ 20 ปี กล่าวว่า เห็นการประชาสัมพันธ์ให้มาร่วมแสดงความคิดเห็นจากทวิตเตอร์ โดยส่วนตัวติดตามข่าวสารและสนใจการเมืองอยู่แล้ว จึงมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้
“การยุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้รู้สึกว่า กระบวนการยุติธรรมไทยไม่สมชื่อ จึงอยากให้มีการปรับเปลี่ยน” เธอแสดงความเห็นต่อการยุบพรรคอนาคตใหม่
ธนัชชายังกล่าวเรียกร้องให้คนรุ่นใหม่สนใจการเมือง โดยระบุว่า การเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัว และอยากเห็นคนออกมาชุมนุมมากกว่านี้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
ขณะที่ บัณฑิต วิลามาส อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การทำกิจกรรมครั้งนี้เป็นเพียงการออกมาเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานที่ต้องการส่งเสียงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบเท่านั้น
“แม้พวกคุณจะยุบพรรคอนาคใหม่ แต่พวกคุณยุบหัวใจพวกเราไม่ได้ ประชาชนไม่มีหน้าที่จ่ายภาษีอย่างเดียวแล้วพูดอะไรไม่ได้” บัณฑิตกล่าวและว่า “ส่วนจะมีการชุมนุมครั้งต่อไปหรือไม่นั้น ต้องดูความพร้อมของผู้ชุมนุม แต่ถ้ามีความยุติธรรมในสังคม พวกเราไม่จำเป็นต้องออกมา”
ขณะที่ พ.ต.อ.อติเทพ พิชาดุลย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดอุบลราชธานี ที่มาร่วมสังเกตการณ์ชุมนุม เปิดเผยว่า ได้จัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความปลอดภัย ซึ่งการชุมนุมหลังการตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ในจังหวัดอุบลราชธานีมีเพียงจุดเดียว และการชุมนุมครั้งนี้ก็มีการขออนุญาตตาม พรบ.ชุมนุมสาธารณะอย่างถูกต้อง
“การชุมนุมของกลุ่มผู้เห็นต่างถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร” รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดอุบลราชธานีกล่าว