เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เรื่อง

นับตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นเวลาเกินกว่า 2 เดือนแล้วที่กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จ.หนองบัวลำภู ยังคงปักหลักชุมนุมตาม 3 ข้อเรียกร้อง ได้แก่ 

(1) ปิดเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หิน

(2) ฟื้นฟูภูผาป่าไม้

(3) พัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและแหล่งอารยธรรมโบราณคดี

ภายใต้สถานการณ์การต่อสู้คัดค้านให้มีปิดและฟื้นฟูเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) เนื้อที่ 175 ไร่ และโรงโม่หิน เนื้อที่อีก 50 ไร่ ตามประทานบัตรที่ 27221/15393 ของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ได้เกิดเหตุการณ์ผิดปกติและไม่ชอบมาพากลที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงระลอก 3 ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงยังคงก่อตัวและคุกรุ่นอยู่ในพื้นที่อยู่ตลอดเวลาและกำลังไต่ระดับความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากการข่มขู่คุกคามสู่การล็อกเป้าหมายสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการคัดค้านการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน เพื่อหวังให้หยุดกระบวนการเคลื่อนไหวคัดค้านต่าง ๆ ให้สิ้นสุดลง

หากสืบสาวย้อนกลับไปหาข้อเท็จจริงเมื่อปี 2542 จากกรณีการลอบยิงกำนันทองม้วน คำแจ่ม แกนนำคัดค้านเหมืองหินปูนบน ‘ภูผาฮวก’ และ สม หอมพรมมา เพื่อนคนสนิท 

ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า วันที่ 22 เมษายน 2542 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ กำนันทองม้วนได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาจาก อ่อน (นามสมมติ) เพื่อนสนิท บอกให้เดินทางไปหาตนเองที่ทุ่งนาบ้านวังหินซา เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับโรงโม่หินจะคุยด้วยและอยากให้ไปเคลียร์ปัญหา ทำให้กำนันทองม้วนออกไปหาเพื่อนสนิท โดยได้พา สอน คำแจ่ม ภรรยาไปเป็นเพื่อน แต่ระหว่างทาง “อ่อน” ได้ยืนดักรออยู่ที่สี่แยกบ้านวังหินซา แล้วบอกว่า ให้ไปพา “สม” มาแทนแล้วให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารบ้านหนองเหลือง ต.กุดผึ้ง แทน

ตอนนั้นกำนันทองม้วนทำตาม “อ่อน” เพื่อนรักด้วยความไว้ใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมานาน โดยได้พาภรรยาไปส่งที่บ้านและไปรับสม แล้วขี่จักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันออกไปยังสถานที่นัดพบที่ร้านอาหารบ้านหนองเหลือง

เวลาประมาณ 14.00 น. เมื่อกำนันทองม้วนและสมไปถึงร้านอาหารดังกล่าวก็เกิดเหตุยิงสังหารกำนันทองม้วนและสมขึ้นกลางวันแสกๆ มีประจักษ์พยานในร้านอาหารที่เห็นเหตุการณ์หลายคน 

ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได จ.หนองบัวลำภู ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้า-ออกของพื้นที่ชุมนุม ภาพเมื่อ 13 สิงหาคม 2563

คำถามตลอด 22 ปีที่ผ่านมาคือ ใครเป็นผู้บงการสั่งฆ่ากำนันทองม้วน คำแจ่ม และสม หอมพรมมา?

จากการรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ทำให้เชื่อได้ว่า มือปืนที่ลงมือสังหารกำนันทองม้วน คำแจ่ม และ สม หอมพรมมา อาจเป็นอดีตสหายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ที่เคยเคลื่อนไหวในพื้นที่เขตงานภูซางและอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหาและเป็นคนบ้านเดียวกันกับ ประคอง (นามสมมติ)

โดย “อ่อน” เพื่อนของกำนันทองม้วนที่เป็นคนโทรศัพท์ลวงให้ออกไป เคยทำงานในองค์กรท้องถิ่นแห่งหนึ่งด้วยกัน ในขณะนั้น “ประคอง” ถือเป็นผู้มีอิทธิพลหลักที่หนุนเหมืองหินปูน โดยเป็นตัวตั้งตัวตีชักชวนเพื่อนฝูงเข้าไปหา ธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ นายทุนจากจังหวัดอุดรธานี ให้มาขอสัมปทานทำเหมืองหินปูนบน ‘ภูผายา’ แต่ทว่าเกิดการคัดค้านอย่างหนักจากชาวบ้านในพื้นที่จนต้องเบนเข็มเปลี่ยนเป้าหมายมาขอสัมปทานทำเหมืองหินปูนบน ‘ภูผาฮวก’ แทน 

ในขณะเดียวกัน จวง (นามสมมติ) แกนนำชาวบ้านคัดค้านเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน ซึ่งอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับประคอง ได้เบนเข็มไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ต่อมากลับสนิทสนมกับประคองมากขึ้น 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2542 นั้น เชื่อเห็นได้ว่า กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการลอบยิงนักต่อสู้คัดค้านเหมืองหินกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นกลุ่มคนเดียวกันกับเมื่อปี 2538 และปี 2542 โดยเป็นฝีมือของแกนนำหนุนให้เกิดเหมืองหินปูนและโรงโม่หินที่ยังมีชีวิตอยู่และยังอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ

แม้ตำรวจในพื้นที่จะไม่สามารถจับมือผู้บงการและผู้สังหารแกนนำต้านเหมืองดงมะไฟทั้ง 4 คนได้ แต่ปากคำพยานที่เป็นคนในพื้นที่และการข่มขู่คุกคามชาวบ้านผู้คัดค้านเหมืองหินปูนและโรงโม่หินอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้เชื่อได้ว่า บุคคลเหล่านั้นเป็นกลุ่มเดียวกันและยังคงเคลื่อนไหว รวมถึงสร้างสถานการณ์ให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวและหวั่นเกรงต่อภัยอันตรายในการออกมาคัดค้านเหมืองหินปูนและโรงโม่หินอยู่เนืองๆ 

กระทั่งมีกระแสข่าวออกมาว่า เตรียมล็อกเป้าไปที่ NGO ต้านเหมืองที่สนับสนุนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ในครั้งนี้

หมายเหตุ: ความคิดเห็นหรือมุมมองต่างๆ ที่ปรากฏบนเว็บไซต์เดอะอีสานเรคคอร์ด เป็นข้อคิดเห็นของผู้เขียน ซึ่งไม่ได้เป็นมุมมองหรือความคิดเห็นของกองบรรณาธิการเดอะอีสานเรคคอร์ด

image_pdfimage_print