คืนหนึ่งในฤดูร้อน ไอแดดที่ระอุมาทั้งวันได้ระเหยควบแน่นรอเวลาที่จะกลั่นตัวกลายเป็นละอองน้ำสูญสลายในยามค่ำคืน เสียงดนตรีสวาทบรรเลงคลอเคล้าบรรยากาศที่ชะโลมด้วยแสงไฟสีจัด ผู้คนรายล้อมมากมายหากแต่ฉันไม่นึกสนใจ กระทั่งวินาทีที่ฝนโปรยปราย คุณปรากฏตัวข้างๆ ฉัน นั่งถัดไปเพียงสองศอก ก่อนเอ่ยสั่งเครื่องดื่มชื่อประหลาด ชายผมสีดอกเลาตรงหน้าหันมาประสานสายตาชั่ววินาที ไม่ต้องบอกก็กระจ่างทันทีว่าวัยของคุณและฉันแตกต่างกันมากเพียงใด เราบังเอิญสบสายตากันอยู่หลายหน เขาเปรยรอยยิ้มบางๆ ส่งมาให้ตามมารยาท ฉันทำเช่นเดียวกัน คืนนั้นคุณอยู่ในสภาพเสื้อเชิ้ตคอจีน ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ผมสีอ่อนไม่เป็นทรงเล็กน้อย กระนั้นหลังเครื่องดื่มมาคุณดูสดชื่นขึ้นและเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา ได้ความว่าคุณเป็นอาจารย์มหาลัย เพิ่งสอนชดเชยภาคค่ำเสร็จ เกือบทุกอาทิตย์ที่คุณแวะมาที่นี่เพื่อทานมื้อค่ำง่ายๆ กับเครื่องดื่มสักแก้วพอให้คืนวันศุกร์ไม่เหี่ยวเฉานัก น่าแปลกที่เราไม่เคยเจอกันก่อนหน้านี้ คุณถามว่าฉันมาทำอะไรที่นี่คนเดียว โน๊ตบุ๊กที่วางอยู่ตรงหน้าเป็นคำตอบ แค่เปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน ฉันว่า คุณซักต่อว่าฉันเป็นนักศึกษาหรือเปล่า ด้วยเจตนาเช่นไรฉันไม่ทราบ แต่ฉันตอบกลับคุณไปว่า เราแค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญมีบทสนทนาดาษดื่นระหว่างท่องราตรีอย่างโดดเดี่ยวก็เท่าน้้น ก่อนทิ้งท้ายว่าสบายใจได้ ฉันใช่ลูกศิษย์คุณเสียเมื่อไหร่ เขาหัวเราะออกมาก่อนยกน้ำสีก่ำขึ้นดื่ม ฉันได้ทราบอีกว่าคุณสอนวิชาประวัติศาสตร์ต่างประเทศซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันพึงเกลียดมากที่สุดในจำพวกวิชาเรียน เราถกกันถึงประเด็นนี้อยู่นานพอสมควร ทว่าคุณไม่มีท่าทีจะหงุดหงิดกับการแลกเปลี่ยน ซ้ำยังกลับเท้าคางนั่งฟังความคิดของหญิงสาววัยห่างกันมากโขอย่างพยายามเข้าใจ ดวงตาของคุณหลังจากหมดแก้วแรกเริ่มฉ่ำวาวเป็นประกาย ฉันเล่าว่าตัวเองเป็นนักศึกษาเอกภาพยนตร์ กำลังทำธีสิสต์หนังสั้นที่ยังคงไร้ทิศทาง ฉันยังไม่รู้ว่าอยากจะเล่าเรื่องราวอะไร ผ่านมุมมองของใคร รู้เพียงแต่ผลงานชิ้นเอกที่จะเป็นก้าวแรกของใบเบิกทางสู่วงการภาพยนตร์นั้นต้องถูกร้อยเรียงออกมาอย่างดี ฉันจึงให้เวลากับมันอย่างเต็มที่ในการนั่งตกตะกอนถึงสิ่งที่อยากจะเล่าผ่านหนังความยาวครึ่งชั่วโมงโดยการพาตัวเองมาอยู่ที่นี่ ซึมซับกับบรรยากาศเผื่อว่าจะชวนกระตุ้นแรงบันดาลใจ และดูเหมือนมันจะเป็นเช่นนั้น ฉันอยากทำหนังโรแมนติกดราม่า แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรที่จะนำเสนอเรื่องราวสามัญให้ออกมาไม่จืดชืด คุณออกไอเดียว่าเรื่องเล่าที่ดีที่สุดคือเรื่องราวจากประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวเพราะคุณจะรู้จักมันดีที่สุด จะเข้าใจแจ่มแจ้งในทุกความรู้สึก และถ่ายทอดออกมาผ่านตัวละครจำลอง พร่ำบอกในสิ่งที่ชีวิตจริงไม่อาจแสดงออกไปได้ ฉันคิดว่าความคิดคุณน่าสนใจ บางทีเรื่องราวการเจอกันระหว่างคนแปลกหน้าในค่ำคื่นเปล่าเปลี่ยวก็ดูน่าสนใจขึ้นมา คุณบอกอีกว่าหากปล่อยให้หัวสมองว่างเปล่า ความคิดดีๆ จะพรั่งพรูออกมาโดยไม่คาดคิด คุณจึงสั่งเครื่องดื่มให้ฉันเป็นจินโทนิกผสมน้ำผลไม้รสเปรี้ยว หอมด้วยกลิ่นชินนามอนเผาไหม้ รสชาติบาดลึกในลำคอทว่านุ่มนวลในตอนปลาย อุ่นร้อนวาบถึงทรวงอก เราทอดสายตาถึงกัน คุณเป็นประเภทสบตาคู่สนทนาอย่างไม่คิดหลบ และคุณคงไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งได้พลัดหลงลงไปในดวงตาคู่นั้นเรียบร้อยแล้ว ฉันลองครวญคิดถึงเรื่องราวชีวิตส่วนตัวอย่างที่คุณบอก ก่อนพบว่าประสบการณ์ความรักของตัวเองจืดจางมากเพียงใด ซ้ำกลับเต็มไปด้วยรักที่ไม่สมหวังอยู่ร่ำไป หากจะหยิบยกเรื่องราวของตัวเองขึ้นมาเล่ามันคงกลายเป็นหนังโศกอนาฏกรรมของหญิงสาวคนหนึ่งผู้อาภัพรัก คุณหัวเราะหลังได้ยินฉันพร่ำก่อนถามฉันถึงเรื่องรักใคร่ บอกว่าวัยนี้เป็นวัยเหมาะควรที่จะลองใฝ่ในรักดูสักครั้งเพื่อรู้ซึ้งถึงความรู้สึกสุขทุกข์ของการเป็นมนุษย์ ฉันเหยียดยิ้ม ใช่สิ่งที่จะใฝ่หาได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ ฉันคิด พลางนึกดูว่าตัวเองปราศจากความรู้สึกชอบพลอมานานแค่ไหนแล้ว ให้หลังมานี้ไม่มีใครที่เข้าตาหรือทำให้รู้สึกเหมือนแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนในร่างกาย ร้อนรุ่มและไหวหวั่น แต่หากอาการเช่นนั้นคือการตกหลุมรัก บางทีค่ำคืนนี้ฉันอาจได้รู้ซึ้งถึงมันอีกครั้ง

เราพูดคุยกันจนไม่รับรู้ถึงเวลา คุณมีมวลของความสบายใจกำจายออกมาส่งถึงคนที่อยู่ด้วย ให้ความรู้สึกอุ่นที่ต่างจากฤทธิ์ของเครื่องดื่มทว่าวาบหวามไม่ต่างกัน ระยะห่างของเราลดลงเรื่อยๆ จากสองศอกกลายเป็นไม่กี่คืบ ขาของเราเราสัมผัสกันผะแผ่ว คุณอาจไม่ทันรู้สึกถึงมัน หรือรู้แต่ไม่คิดเขยิบหนี ปลายเท้าของฉันไล้ขาของคุณเป็นการหยอกล้อ คุณทำสีหน้าเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็กที่เล่นพิเรนทร์ ปลายนิ้วของเราละกันไปมา ก่อนสายตาของฉันจะสังเกตเห็นถึงบางอย่างบนนิ้วมือข้างซ้ายของคุณ วินาทีนั้นเอง หัวใจที่กำลังไต่สู่ยอดเขาก็พลันร่วงหล่น ร่างกายถอยห่างออกมาก่อนจะรู้ตัว ฉันเบือนหน้าจากคุณ อาจเพราะเกรงว่าคุณจะสังเกตเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไป และหากสังเกตดีๆ คุณอาจจะเห็นดวงตาที่ส่อประกายของความผิดหวังอย่างปิดไม่มิด ฉันบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร แค่อีกหนที่ความผิดหวังแวะเข้ามาทักทาย และคุณไม่ต่างอะไรกับจินโทนิกที่ดื่มไปในค่ำคืนนี้ ดั่งฤทธิ์แอลกอฮอล์ชวนให้หลงใหล ในดวงตา ในบทสนา จนเผลอจินตนาการวาดฝันไปเอง ก่อนพบว่าทุกอย่างจะหมดฤทธิ์และถูกปลุกจากตราตรีหอมหวานทว่าทิ้งรสขมปร่าไว้ในใจ หากหนังสั้นของฉันจะถูกเล่าจากเรื่องราวชีวิตจริง มันคงเป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้ซึ่งได้ตกหลุมรักและใจสลายในค่ำคืนเดียว นั่นคือคืนนี้ที่ฉันได้พบคุณ

ชายคาเรื่องสั้นเป็นกิจกรรมน้ำหมึกโดย ‘คณะเขียน’ ซึ่งเปิดพื้นที่วรรณกรรมมากว่าทศวรรษ ก่อนย้ายตัวเองจากสิ่งพิมพ์มาสู่ออนไลน์ตั้งแต่มกราคม 2022 โดยนักเขียนที่สนใจสามารถส่งประกวดเพื่อคัดเลือกเรื่องสั้นที่ดีที่สุดของแต่ละเดือนมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ The Isaan Record อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจชายคาเรื่องสั้น

image_pdfimage_print