อุบลราชธานี – 3 พฤษภาคม 2567 ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดเสวนาในหัวข้อ “ส.ว.อุบลม่วนซื่น คืนอนาคตประเทศ” โดยมีนักวิชาการและเครือข่ายเข้าร่วม โดยก่อนเริ่มเสวนาได้มีการจำลองสถานการณ์การเลือก ส.ว. ที่แสดงถึงความสลับซับซ้อน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมรับฟังเสวนาเข้าใจกติกาเบื้องต้น ถัดจากนั้นจึงเข้าสู่การแลกเปลี่ยนความเห็นบนเวทีเสวนา

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีต ส.ว. อุบลราชธานี กล่าวว่า ตนไม่มีความประสงค์จะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ว. ครั้งนี้ เพราะไม่อยากติดกับดักของมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กมธ.) และตนอายุมากแล้ว แต่เห็นด้วยที่ iLaw คณะก้าวหน้า และภาคประชาชนรณรงค์ให้คนสนใจการเลือก ส.ว. ตามหลักประชาธิปไตย 

เขากล่าวอีกว่า การเลือกตั้งใดก็ตาม ถ้าปล่อยให้อยู่ในความเงียบและตกอยู่ในกฎระเบียบที่เป็นการใช้อำนาจขององค์กร แม้จะมี กกต. ก็ตาม แต่การเลือกตั้งนั้นจะเป็นการเลือกตั้งที่ทำลายหลักการของประชาธิปไตย ทำให้ไม่ได้ผู้แทนปวงชนที่จะไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

เลือกตั้งระบบปิดครั้งแรกของโลก

นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า การที่จำกัดให้คนเสียค่าสมัคร 2,500 บาท ต้องอายุมากกว่า 40 ปี เคยทดลองมาแล้วเมื่อปี 2561 ในการเลือก ส.ว. 50 คน ของชุด 250 ส.ว. ปัจจุบัน ตอนนั้นทั่วประเทศมีคนสมัคร 7,000 กว่าคน ใช้เงิน 1,300 ล้านบาท บางจังหวัดมีคนสมัครไม่ถึง 100 คน โดยเฉพาะทางอีสาน พอเลือกเสร็จ คสช. ก็คัดอีกรอบ 

“ครั้งนี้โชคดีที่ คสช. ไม่มีอำนาจในการคัดออก แต่ระบบที่ทำให้การเลือกเป็นระบบปิด ซึ่งไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกัน เขาอาจจะภาคภูมิใจว่ากำลังทำลายประวัติศาสตร์ในโลก ก็คือเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวที่เลือกตั้งแบบนี้ แต่มันไม่ใช่ มันเป็นวิธีการที่เป็นการทำลายหลักการของประชาธิปไตย คือละเมิดสิทธิความเป็นพลเมือง และสิทธิทางการเมือง” นพ.นิรันดร์ กล่าว

นพ.นิรันดร์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ประเทศไทยกำลังจะทำขณะนี้ย้อนแย้งกับการที่ไทยกำลังจะสมัครเข้าไปเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แต่เรากำลังละเมิดต่อหลักการสิทธิมนุษยชน แล้วจะมีหน้าไปเป็นคณะมนตรีฯ และจะเข้าไปเพื่อค้ำยันหลักการสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นหลักการสำคัญของโลกได้อย่างไร 

ปลุกคนแฮกระบบ ส.ว. ระบบปิด

ขณะที่ พรรณิการ์ วานิช ตัวแทนคณะก้าวหน้า กล่าวว่า กระบวนการเลือก ส.ว. ครั้งนี้ทำให้ประชาชนคนไทยไม่ได้ ส.ว. ที่มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ และประสบการณ์ที่เรียกว่าเป็นสุดยอดในแต่ละสายอาชีพตามที่เขากำหนดมา 20 กลุ่มอาชีพ เพราะรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กำหนดมาแบบนี้ 

“เราจึงจำเป็นต้องแฮกระบบ ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามน้ำ เราจะได้ ส.ว. กล่องสุ่ม สุดท้ายเสี่ยงต่อการที่ผู้มีอำนาจจะไปรอซื้อปลายทาง หลายคนบอกว่าบ้านใหญ่ในแต่ละจังหวัดกำลังเอาคนของตัวเองเข้าไป” ตัวแทนคณะก้าวหน้า กล่าว 

พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ได้ยังได้รับข้อมูลว่า เมื่อถึงระดับประเทศก็อาจจะมี 2 อย่าง คือ การวัดดวงกับซื้อยกโหล ซื้อยกล็อต คือไปซื้อผู้สมัครที่เข้าไปถึงระดับประเทศยกล็อต ทีละ 20-30 ล้าน แล้วก็ให้เข้าไปโหวต ระบบนี้ถ้าจะให้ตอบประโยคเดียวก็คือ เอื้อกับ 1.คนที่มีเครือข่ายเส้นสาย นั่นก็คือราชการ ตำรวจ ทหาร  2.บ้านใหญ่ระดับชาติ คนที่ถือเงินรอไว้ปลายทาง 500-600 ล้านบาท ซื้อทีเดียวตอนที่ได้ 200 คน ไม่ได้เอื้อเฉพาะบ้านใหญ่ในระดับท้องถิ่นเท่านั้น 

“ระบบนี้น่ากลัว เพราะกินรวบ คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดไม่ใช่ประชาชน เพราะท่านเสียค่าสมัคร 2,500 บาทตั้งแต่ต้น แต่ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือผู้ที่มีเงินในระดับ 600-1,000 ล้านบาทที่สามารถซื้อตัว 200 คนทีเดียวได้” ตัวแทนคณะก้าวหน้า กล่าว  

ขอให้คนเสียเงิน 2,500 เพื่อโหวต

“การเลือก ส.ว. ครั้งนี้จึงเป็นการขอที่หน้าด้านที่สุดในประวัติศาสตร์การทำงานการเมืองของพวกเรา คือ ขอให้ประชาชนเสียเงิน 2,500 บาทเพื่อให้ประชาชนได้ในสิ่งที่ควรได้มาฟรี นั่นคือสิทธิในการโหวต ส.ว. เราเชื่อว่า ระบบนี้สร้างขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งก็จริง แต่จุดอ่อนคือ เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนยอมลงทุน 2,500 บาท เพียงเพื่อไปโหวต ให้คนที่ตัวเองชอบได้เข้าไปเหมือนระบบการเลือกตั้ง” 

พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า คนอาจจะมองว่า ทำไมต้องเสียเงิน 2,500 บาทเข้าไปเลือก ก็เพราะว่าเขาไม่ได้คิดว่าจะให้ท่านไปเลือก แต่ตนเห็นว่า ถ้าอยากช่วงชิงการเป็น ส.ว. กลับมาอยู่ในมือประชาชน

“ท่านต้องใจป้ำพอ สมัครเอง จ่ายเอง นักเลงพอ 2,500 บาท ใช้เงินแก้ปัญหา แล้วเข้าไปใช้เจตจำนงเสรีในการเลือก มีคนมาถามว่าจะเลือกใครดี ดิฉันตอบเลยว่าดิฉันไม่ทราบ แคมเปญของเราไม่ได้รณรงค์ให้ท่านไปเลือกใครทั้งสิ้น เพราะเราชื่อว่าประชาชนมีสติปัญญาเพียงพอ ตัดสินใจเองได้ว่าจะเลือกใคร” พรรณิการ์ กล่าว 

จับตาคนหัวก้าวหน้าถูกสกัดตั้งแต่ระดับอำเภอ 

พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาของเรื่องนี้ก็คือว่าคนที่ดีมีความสามารถมีคุณูปการต่อประเทศ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์อาจจะตกตั้งแต่รอบอำเภอ เนื่องจากอาจสู้เสียงบล็อกไม่ได้ เพราะการบล็อกระดับจังหวัดหรือระดับประเทศทำยาก แต่บล็อกระดับอำเภอมันง่าย พื้นที่ยังเล็กอยู่ ขนคนไป 10-20 คน ท่านก็อาจจะชนะแล้ว ดังนั้นตัวช่วยของผู้มีคุณูปการเหล่านี้ คือรณรงค์ให้ประชาชนยอมเสียเงิน 2,500 บาท เพื่อเข้าไปเป็นผู้ที่ช่วยให้ผู้มีคุณูปการ สามารถผ่านเข้าสู่การเป็น ส.ว.ได้ 

พรรณิการ์ ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของ กกต. ว่า เราต้องจี้เรื่องการเปิดข้อมูลผู้สมัคร ถ้าไม่ให้เว็บไซต์ senate67.com ทำ กกต. ก็ต้องทำ เพราะข้อมูลผู้สมัครไม่ใช่ความลับ ตนทราบว่า เลขา กกต. บอกว่าจะมีแสดงรายชื่อผู้สมัคร แบ่งเป็นกลุ่มและอำเภอ ต้องรอดูว่ามีข้อมูลชัดเจนเพียงใด 

“กังวลว่า กกต. อาจจะงุบงิบหรือตีกินหรือไม่และยื้อเวลาออกด้วยการไม่รับรอง ส.ว. ชุดใหม่ ทำให้ ส.ว. ชุดเก่าอยู่ในวาระรักษาการไปได้เรื่อยๆ ซึ่งดิฉันขอดักคอ กกต. ว่าไม่มีกฎหมายข้อไหนที่จะบังคับให้ กกต. ตรวจสอบทุกเรื่องร้องเรียนเสร็จก่อน แล้วค่อยรับรอง หมายความว่า 2 กรกฎาคม กกต.จะต้องประกาศผลว่า 200 คนที่ได้รับเลือกเป็นใคร”

เตือน “กกต.”ตุกติกปล่อยบายพาสระดับอำเภอระวังติดคุก  

พรรณิการ์ กล่าวต่ออีกว่า อีกข้อกังวลคือ กกต. บอกเองว่าในบรรดา 20 กลุ่มอาชีพ จาก 900 กว่าอำเภอ คูณกันออกมาก็จะได้ 18,000 กลุ่ม ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งจะไม่เต็ม ก็คือจะใช้วิธีผ่านเลย เช่น กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจาก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ อาจจะมีคนไม่ถึง 5 คน ก็อาจจะเข้าเลย 

“ถ้าท่านเป็นผู้สมัคร ส.ว. ห้ามให้มีการตกลงกันเองว่าไม่ต้องจับสลาก อันนี้เป็นเรื่องผิด เรากลัวว่าในอำเภอขนาดเล็ก ห่างไกลและคนน้อยๆ จะเกิดการโมเมว่า ไม่ต้องจับสลากและให้ผ่านไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ สิ่งที่จะทำให้การฮั้วหรือการบล็อกเกิดขึ้นได้ง่ายที่สุดก็คือการล็อกจับสลากเหมือนล็อกหวย”

พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ถ้าไม่เกิดการจับสลากขึ้นจริง ไปตกลงกันเอง แล้วผ่านกันเข้ามา ไม่ควรให้เกิดขึ้นเด็ดขาด เพราะว่าจะทำให้การบล็อกโหวต การจัดตั้งเกิดขึ้นได้ง่ายมาก

“ขอย้ำไปที่ กกต.อีกครั้งว่าอย่าให้จับได้ว่า ทำลักษณะนี้ในระดับอำเภอ ถ้ามีการตุกติกกัน กกต. เข้าคุกแน่นอน ไม่ใช่มีแต่พวกเราที่เข้าคุกได้ กกต. ก็เข้าคุกได้ เพราะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157”

แคมเปญ ส.ว.ประชาชนมีแต่เสมอตัวกับชนะ

พรรณิการณ์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุดหากการณรงค์ไม่ได้ ส.ว. ของประชาชนตามเป้าหมาย ตนไม่มีแผนอื่นรองรับ แคมเปญนี้ตนพูดตั้งแต่วันแรก ว่าถึงมันจะยากและเป็นแคมเปญที่ตนใช้คำว่าหน้าด้านมาก ไปขอให้คนจ่าย 2,500 บาท เพื่อมาโหวต แต่มันสนุกตรงที่มีแต่เสมอตัวกับชนะเท่านั้น เพราะกรณีเลวร้ายที่สุดมันมีแต่สิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบัน  ส.ว. ชุดอนาคต 200 คน ไม่มีทางที่จะเบ็ดเสร็จเท่ากับชุด 250 คน ต่อให้การเดินสาย 10-20 จังหวัดล้มเหลว สุดท้ายแล้วประชาชนแพ้หมดได้แต่เสียงจัดตั้งไป มันก็จะไม่ได้เป็นเสียงที่จัดตั้งโดยคนๆ เดียว 

“มันจะเป็นเสียงที่แตกก๊กแต่เหล่าออกไป เราคาดหวังการรณรงค์ให้ประชาชนไปสมัครกันเยอะๆ แล้วโดยที่กระบวนการมันเหมือนการซื้อหวยนี้ ก็คือว่ามันต้องใช้ดวง เพราะกระบวนการวุ่นวายมาก คนเขียนเองก็นั่งเขียนในห้องแอร์ ตนคิดว่าอย่างต่ำๆ 20-30 คน มันต้องมีบ้าง คนบ้าๆ ที่ซื้อไม่ได้ คนที่แบบกูไม่ขาย มึงเอา 100 ล้านมากองข้างหน้ากูก็ไม่ขาย

“คิดว่าประเทศไทยมันไม่สิ้นหวังขนาดนั้น เขาคุมกฎการเลือกตั้งปี 2562 เขาแก้ไขกฎการเลือกตั้งปี 2566 และเขาออกแบบกฎการได้มาซึ่ง ส.ว. เขากุมความได้เปรียบในฐานะผู้ออกแบบและบังคับใช้กฎ แต่การเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา มันพิสูจน์แล้วว่ากฎกติกาไม่สามารถบิดเบือนเจตจำนงเสรีของประชาชนคนไทยได้ ถ้าประชาชนร่วมมือกันทำอะไรก็เกิดขึ้นได้ 50-70 คนเป็นไปได้ เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริงของประเทศนี้”

ชูเวช เดชดิษฐรักษ์ ActLab (Activist’s Laboratory) และสมาชิกวงดนตรีสามัญชน 

‘ActLab’ กังขา กกต. รู้ว่าต้องเลือก สว.ด้วยระบบนี้มา 7 ปี แต่เพิ่งออกระเบียบคุม 

ชูเวช เดชดิษฐรักษ์ ActLab (Activist’s Laboratory) และสมาชิกวงดนตรีสามัญชน กล่าวว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า กกต. ไม่ได้เพิ่งรู้ว่าจะมีการเลือก ส.ว. ด้วยวิธีการนี้ เพราะอยู่ในรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ประกาศใช้และรู้ล่วงหน้ามา 7 ปีแล้ว แต่ระเบียบ กกต.กลับประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

“ข้อห้ามไม่ให้ผู้สมัคร ส.ว. แสดงจุดยืนทางการเมืองก็เท่ากับว่า ส.ว. ไม่มีกระดูกสันหลังที่จะตอบคำถามนี้กับสังคมแล้วจะลงสมัคร ส.ว. ไปทำไม ถ้าไม่มีอุดมการณ์ที่ยืนยันว่าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ต้องมาจากประชาชนทั้งฉบับ แล้วจะไปเป็น ส.ว.เพื่ออะไร”

ชูเวช กล่าวต่อว่า ขอให้ กกต. วางอคติส่วนตัวและมาดูว่าผลประโยชน์ของประเทศคืออะไร อย่างไรก็ตามหลังการชุมนุมปี 2563 เป็นต้นมา ตนเคยรู้สึกสิ้นหวัง แต่วันนี้กลับมีความหวัง 

“หลังจากเดินสายมาแล้ว 10 กว่าจังหวัด เจอตัวละครลับและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีอุดมการณ์ออกมาบอกว่าเราจะสู้ในสนามนี้ ใครก็ตามที่กำลังจะลงสมัคร ส.ว. ช่วยสู้แทนพวกผมด้วย ช่วยทำให้อนาคตของคนรุ่นใหม่ไม่สิ้นหวังไปมากกว่านี้” สมาชิกวงดนตรีสามัญชน

image_pdfimage_print