ขอนแก่น – ตัวแทนคณะกรรมการประชาชนคัดค้านโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวมวล (คปน.) ภาคอีสาน นำโดย สิริศักดิ์ สะดวก ผู้ประสานงาน อ่านแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และคืนสิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน 

แถลงการณ์ระบุว่า การขยายเวลาของพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน 2563 โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) นั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว กฎหมายฉบับนี้บังคับใช้เพื่อกำจัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เหมือนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยใช้การจำกัดสิทธิของประชาชนหลังการรัฐประหารปี 2557 

“การขยายเวลาการใช้กฎหมายฉบับนี้จะส่งผลให้การเข้าถึงสิทธิ การมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีแผนการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคอีสานที่ถูกกีดกันอยู่แล้วทวีความรุนแรงขึ้น เพราะทำให้ประชาชนรวมกลุ่มเพื่อแสดงความคิดเห็นไม่ได้ คปน. ภาคอีสานจึงเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และคืนเสรีภาพให้ประชาชนเร็วที่สุด” สิริศักดิ์อ่านแถลงการณ์ระบุและว่า “คปน. ขอกำหนดเส้นตายให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนกลางเดือนมิถุนายน หากไม่ทำตาม ทางเครือข่ายฯ จะนัดประชุมครั้งใหญ่เพื่อกำหนดท่าทีต่อไป” 

ขณะที่จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ละเมิดสิทธิประชาชนหมดเลย ทั้งการประกาศ พรก. เดือนแรกเป็นการใช้เพื่อควบคุมโรค แต่การต่ออายุครั้งถัดมาเป็นการหยุดคนที่ไม่พอใจรัฐบาลเคลื่อนไหว ในแง่ความมั่นคงของรัฐฯ ก็จะมองว่า ไม่ให้คนต่อต้านรัฐเคลื่อนไหว พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จึงต้องการกำราบเรื่องนี้ โดยไม่ให้นักเรียนนักศึกษารวมกลุ่มกันและไม่ให้สถาบันการศึกษาเปิด 

“แทนที่รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาความไม่พอใจของประชาชน กลับใช้กฎหมายกำราบประชาชน” ไผ่ ดาวดิน กล่าวและว่า “ตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกว่า 50 จังหวัดลดลงและบางจังหวัดก็ไม่มีผู้ติดเชื้อตั้งนานแล้ว แต่ยังบังคับมาตรการแบบเดียวกันทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ทำมากว่า 6 ปีแล้ว นั่นคือความมั่นคงของรัฐ แต่กลับไม่ใช่ความมั่นคงของประชาชน” 

ทั้งนี้ รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้บังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมเป็นต้นมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อมาได้มีประกาศเคอร์ฟิวมีผลทั่วประเทศ โดยงดให้คนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม ถึง ตี 4 ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนเป็นต้นมา และต่อมาได้ปลดล็อคมาตรการเคอร์ฟิวโดยลดเวลาลง 1 ชั่วโมง จากการเริ่มบังคับใช้เวลาเคอร์ฟิวจาก 4 ทุ่ม เป็น 5 ทุ่ม และจะยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ วันที่ 30 มิ.ย.นี้

image_pdfimage_print