กลุ่มต้านเหมืองดงมะไฟ จ.หนองบัวฯ เข้ายื่นหนังสือผู้ว่าฯ แจ้งขนย้ายสารเคมีจากโรงโม่หินมิชอบ แต่หน่วยงานรัฐปัดไม่รู้ข้อเท็จจริง อ้างต้องรอเสนอผู้บังคับบัญชาสั่งการ แต่ชาวบ้านจี้ให้ตอบความคืบหน้าภายใน 7 วัน 

หนองบัวลำภู-จดหมายข่าวของกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เปิดเผยว่า เมื่อ11 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ตัวแทนกลุ่มฯ ได้เดินทางไปศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ให้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีบริษัทเอกชนผู้ประกอบการโรงโม่หินขนย้ายสารเคมีประเภทปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทที่เป็นส่วนผสมประกอบการทำวัตถุระเบิดออกจากโรงเก็บวัตถุระเบิดที่ปิดตัวไปแล้ว 

ทั้งนี้ชาวบ้านได้รับแจ้งว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าฯ ไปราชการต่างจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้ารับฟังข้อมูล อาทิ สำนักงานปกครองจังหวัดหนองบัวลำภู กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดหนองบัวลำภู ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู อุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองบัวลำภู และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู 

จดหมายข่าวบอกว่า มนีนุด อุทัยเรือง ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้อ่านหนังสือก่อนยื่นต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู มีใจความว่า เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 มีรถกระบะ 2 คันและรถบรรทุกหกล้อ 1 คัน ขับเข้าไปในเขตโรงโม่หิน แล้วขนย้ายสารเคมีปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรท ซึ่งเป็นส่วนผสมประกอบทำวัตถุระเบิดจำนวนหนึ่งออกจากโรงเก็บวัตถุระเบิดของบริษัทฯ โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามากำกับดูแล เมื่อกลุ่มอนุรักษ์ฯ เข้าไปสอบถามรายละเอียด กลุ่มคนที่ขนย้ายอ้างว่า ได้รับคำสั่งจากบริษัทและอำเภอให้เข้ามาขนย้ายเพื่อนำไปเก็บไว้ที่อำเภอ ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2565 รถกระบะ 2 คันเดิมก็ได้ขับเข้าไปในเขตโรงโม่อีกครั้ง แต่ไม่มีการขนย้ายสารเคมีปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทแล้ว 

ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์กล่าวอีกว่า เมื่อกลุ่มและตำรวจเข้าไปสอบถาม คนกลุ่มนั้นอ้างว่า เป็นพนักงานบริษัทฯ เข้ามาตรวจพื้นที่และรอต้อนรับทหารที่จะเข้ามาตรวจสอบคลังเก็บระเบิดของบริษัทฯ พร้อมยื่นเอกสารใบอนุญาตซึ่งยุทธภัณฑ์ให้ตำรวจ จากนั้นตำรวจจึงขอเบอร์ทหารและโทรติดต่อสอบถามทราบว่า ทหารกำลังเดินทางแต่จะไม่เข้าไปตรวจสอบ โดยให้เหตุผลว่าไม่ต้องการปะทะกับชาวบ้าน

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มอนุรักษ์ฯ เกิดความกังวลใจถึงความปลอดภัยในขั้นตอนกระบวนการขนย้ายสารเคมีปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรท ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายในระหว่างการขนย้าย จึงขอให้หน่วยงานเข้าร่วมตรวจสอบ”จดหมายข่าวระบุความกังวลของมนีนุด 

ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ มีความสงสัยต่อกระบวนการขนย้ายสารเคมีปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทออกจากพื้นที่ ดังนี้

1.การขนย้ายสารเคมีในครั้งนี้มีการรู้เห็นจากหน่วยงานของรัฐหรือไม่ เนื่องจากได้มีการกล่าวอ้างว่าอำเภอให้เข้ามาขนย้ายสารเคมีปุ๋ยออกจากโรงเก็บวัตถุระเบิดเพื่อนำไปเก็บไว้ที่อำเภอ อีกทั้งบุคคลที่เข้ามาขนย้ายมีกุญแจประตูเข้าโรงเก็บวัตถุระเบิดของบริษัทเอกชนและมีการนำเอกสารใบอนุญาตมีซึ่งยุทธภัณฑ์มาอ้างและกล่าวอ้างว่าทหารเข้ามาตรวจสอบคลังเก็บวัตถุระเบิด แต่เอกสารที่นำมาแสดงเป็นเพียงใบอนุญาตครอบครอง ไม่ใช่ใบอนุญาตขนย้าย

2.จังหวัดหนองบัวลำภูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นได้ปล่อยปละละเลยให้มีการขนย้ายสารเคมีปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทที่ใช้ในการผสมทำวัตถุระเบิดจำนวนมากออกจากพื้นที่โรงเก็บระเบิด โดยที่ไม่มีการกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ได้อย่างไรและต้องการทราบว่า มีการควบคุมความปลอดภัยหรือไม่

3.การประชุมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2464 ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์ฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการตกลงกันอย่างชัดเจนว่า หากมีการขนย้าย เคลื่อนย้ายหรือตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ต้องมีการแจ้งกลุ่มอนุรักษ์ฯด้วยทุกครั้ง เพื่อให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วม แต่ทางหน่วยงานก็ยังคงเพิกเฉย

4.การกระทำครั้งนี้ของบริษัทเอกชนที่ขนย้ายสารเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว หน่วยงานราชการมีมาตรการลงโทษหรือไม่ 

จากนั้นตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า จะนำข้อมูลไปเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อสอบถามผู้ส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น EOD ที่รับผิดชอบเรื่องวัตถุระเบิดต่อไป     

บรรยากาศขณะตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ยื่นหนังสือต่อตัวแทนศูนย์ดำรงธรรม จ.หนองบัวลำภู

ส่วนสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า เรื่องวัตถุระเบิดที่นำมาใช้ในเหมืองจะมีกฎหมายควบคุมอยู่ คือ พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์ ทางอำเภอและทางปลัดจังหวัดทำหน้าที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ต้องรอให้ทางศูนย์ดำรงธรรมทำเรื่องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาตามข้อกฎหมายไม่ว่าจะการครอบครองยุทธภัณฑ์ตัวนี้ในการที่จะขอขนย้ายต้องทำอะไรบ้าง 

ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงกล่าวว่า ตอนนี้ค่อนข้างกังวล เพราะได้มีการขนย้ายออกไปแล้วบางส่วน สิ่งที่ยังเหลืออยู่จะจัดการอย่างไรต้องมีมาตรการในการจัดการว่าสิ่งที่เหลืออยู่ ในเมื่อยังไม่มีใครสามารถชี้แจงรายละเอียดได้เลยว่า ที่เข้าไปขนเป็นการขนย้ายที่ถูกต้องหรือไม่ และที่เอาไปขนย้ายไปไว้ที่ไหนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรู้เรื่องนี้ไหม บริษัทได้แจ้งกับหน่วยงานหรือไม่และฝากให้เป็นกรณีเร่งด่วน 

เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือวันนี้จะดำเนินการทำบันทึกและทำหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องรอทางผู้ว่าฯ กลับมาจากการประชุมก่อน 

ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงกล่าวทิ้งท้ายก่อนปิดประชุมว่า อยากให้ติดตามโดยเร่งด่วนและให้ตอบหนังสือกลับภายใน 7 วัน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่ได้ชุมนุมบริเวณทางเข้า – ออกเหมืองหินปูนเพื่อเรียกร้องให้ปิดเหมือง หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ต่อใบประทานบัตรการทำเหมืองแร่หินปูนของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ซึ่งทำให้การสิ้นสุดประกอบการสิ้นสุดลง ชาวบ้านจึงได้เข้าใช้พื้นที่ด้วยการปลูกป่าและฟื้นฟูธรรมชาติให้เป็นป่าชุมชน 

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได

อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

กพร.ยืนยันไม่ต่อใบประทานบัตรเหมืองหินดงมะไฟ

เปิดเบื้องหลังการสังหาร “กำนันทองม้วน คำแจ่ม” นักสู้แห่งเหมืองหินดงมะไฟ

สัญาณแห่งความรุนแรงระลอก 3 ที่เหมืองหินดงมะไฟ

4 ศพดงมะไฟ คดีที่รอวันสะสาง

image_pdfimage_print